ในยุคที่แมกกาซีนยังวางขายเต็มแผงหนังสือ หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าใสๆ ไร้ที่ติของนายแบบหนุ่ม ‘ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์’ กันดี ก่อนจะได้ยินข่าวคราวถึงการโกอินเตอร์ไปเป็นนายแบบชาวไทยคนแรกบนรันเวย์ของเกาหลีใต้เมื่อหลายปีก่อน

‘ไอซ์ซึ’ หวนกลับมาสู่วงการแฟชั่นและบันเทิงไทยอีกครั้ง บนเส้นทางความท้าทายใหม่ในบทบาทของนักแสดง ฝากความน่ารักไว้ให้แฟนๆ ประทับใจ ทั้งในบทบาทของ ‘ปุณ’ เด็กปั๊มพระเอกจากซีรีส์เรื่อง ‘แก๊สโซฮัก…รักเต็มถัง’ สจ๊วตหนุ่มหล่อขวัญใจเก้งกวางในตัวละคร ‘ธาม’ จาก ‘ไดอารี่ตุ๊ดซี่’ ซีซั่น1 และ 2 รวมถึงผลงานที่เจ้าตัวทุ่มเทสุดใจ ด้วยการลดน้ำหนัก 14 กิโลกรัมจนผอมซูบแทบจำไม่ได้ เพื่อรับบท ‘ปาย’ ใน ‘The Collector คนประกอบผี’ และกำลังเตรียมตัวมีผลงานชิ้นใหม่ให้แฟนๆ ได้ติดตามกันในเร็วๆ นี้

ด้วยผลงาน และประสบการณ์การทำงานของไอซ์ซึ ทำให้เราต้องหาเวลามานั่งจับเข่าพูดคุยให้ครบทุกซอกทุกมุมของชีวิต และพบว่าความคูลของคนคนนี้ ไม่ได้มีอยู่แค่ในภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวที่เราเห็นกันเท่านั้น!


ชีวิตของไอซ์ซึก่อนจะก้าวมาสู่การเป็นนายแบบ

คือหลายคนอาจจะเห็นผมแต่ในลุคนายแบบ หรือนักแสดงนะครับ แต่ชีวิตของผมช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะมาถึงตรงนี้ บอกเลยว่า ผมติดเกมมากครับ ชนิดที่ว่าอยู่หอ ตื่นเช้ามา ลงไปเฝ้าร้านเกมเลย ติดเกมมากจนแทบจะไม่เรียนหนังสือ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า เราจะเป็นนักแข่งเกมมืออาชีพ ผมอินอยู่กับมันประมาณ 3 ปี จนในที่สุดก็ได้แข่งเกมจริงๆ แล้วก็ได้แชมป์ประเทศไทยด้วยนะ ตอนนั้นน่าจะเล่น DotA1 ครับ เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่น่าจดจำดี ตอนนี้พอเป็นนายแบบ นักแสดงแล้ว เพื่อนๆ ในวงการเกมมักจะแซวว่า เออ เดี๋ยวนี้หล่อแล้วนะ

แล้วเริ่มมาเป็นนายแบบได้อย่างไร?

ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ9 ปีก่อน ตอนนั้นเป็นเด็กมหาวิทยาลัยธรรมดาๆ เลยครับ จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขาฮิตเข้ายิม เล่นฟิตเนสกัน ผมก็ไปเล่นกับเพื่อนๆ ประจบเหมาะกับที่มีแมวมองเข้ามาดูที่ยิม แล้วผมอยู่ตรงนั้นพอดี เลยถูกชักชวนให้ไปแคสต์งาน ตอนแรกค่อนข้างกังวลนะ เพราะไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร พอปรึกษาเพื่อน เพื่อนได้แต่เตือนให้ระวัง ไม่รู้ว่าเขาจะมาหลอกหรือเปล่า แต่ตัวเราเป็นผู้ชาย มันไม่มีอะไรจะเสีย และไม่ได้กลัวอะไรก็เลยตัดสินใจลองไปดู ซึ่งตอนนั้นสถานที่แคสต์งานมันอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย แค่เดินข้ามซอยไปก็ถึง เลยตัดสินใจลองเสี่ยงดู พอได้ทำแล้วมันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเราในตอนนั้นมาก ต้องมีการเทรนใหม่ สอนเดินแบบกันใหม่หมดเลย ถ้าจำไม่ผิดงานแรกที่ไปลองแคสต์คือ Bangkok Fashion Week ครับ


เคยคิดไหมว่าตัวเองจะมาทำงานนี้ได้?

ไม่คิดเลยครับ ไม่ได้คิดไว้เลย ตอนนั้นผมยังไม่มีแผนอะไรในชีวิต คิดแต่ว่าเรียนให้จบแล้วค่อยว่ากันอีกที แต่พอเริ่มลองทำก็เริ่มชอบ เชื่อไหมว่า เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ไม่แต่งตัวเลย ใส่แค่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ แค่นั้นเลย ตอนแคสต์งานแรกก็แต่งตัวแบบนั้นไป แต่พอได้ทำงานตรงนี้ เริ่มปรับปรุงตัวเองมาเรื่อยๆ จากที่ไม่กล้าส่องกระจกเลย ก็มั่นใจในตัวเองมากขึ้น เริ่มรู้ว่าเรามีตรงไหนที่ดีและไม่ดี จากคนขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก เริ่มแต่งตัวและก้าวออกมาจากเซฟโซนของตัวเอง

ถ้าไม่ได้เป็นนายแบบ นักแสดงอย่างทุกวันนี้ จะทำอะไร?

น่าจะตกงานนะ (หัวเราะ) อย่างที่บอกว่าตอนนั้นยังไม่มีความฝันจริงจัง ฝันไว้อย่างเดียวคือเป็นนักแข่งเกมมืออาชีพนี่ล่ะ แต่ก็ได้ลองแล้ว และพบว่ามันไม่พอประทังชีวิต เมื่อก่อนวงการ E-Sport มันไม่ได้บูมเหมือนทุกวันนี้ สมัยนี้แข่งชนะได้กันเป็นหลักล้าน สมัยผมคือได้หลักหมื่น แบ่งกัน 5 คนก็แทบไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ถ้าย้ายช่วงเวลาจากตอนนั้นมาเป็นตอนนี้ได้ คงเป็นนักแข่งเกมมืออาชีพครับ


ดาวน์โหลดแฟชั่นและบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่
https://www.mebmarket.com
https://www.ookbee.com

Clothes : Good Mixer available at 3rd Siam Center