Warning: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at /var/www/marshomme.com/wp-content/plugins/wp_mgr_id/wp_mgr_id.php:1) in /var/www/marshomme.com/wp-includes/feed-rss2.php on line 8
Marshomme https://marshomme.com Thu, 23 Feb 2023 08:58:48 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.2.20 https://marshomme.com/wp-content/uploads/2019/10/logo2_icon-90x90.png Marshomme https://marshomme.com 32 32 ชวนจิบไวน์ ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ “SALIL JOURNEY RIVERSIDE” https://marshomme.com/lifestyle/532375/ Thu, 23 Feb 2023 08:52:00 +0000
“ยังเหลือที่ว่างริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้สร้างโรงแรมอีกหรือ?”

        นี่เป็นคำอุทานแรกตอนที่ได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดโครงการ “สลิล เจอร์นีย์ ริเวอร์ไซด์” ไลฟ์สไตล์สเปซแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่รวบรวมห้องพัก (โรงแรม เดอะ สลิล ริเวอร์ไซด์ – กรุงเทพ) ร้านอาหาร สปา ฟิตเนส พื้นที่ทำกิจกรรม และร้านค้าจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Harnn และ Karmakamet ไว้ในที่เดียว

       แล้ว“สลิล เจอร์นีย์ ริเวอร์ไซด์”แตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ และไลฟ์สไตล์สเปซอื่นๆ ย่านนั้นตรงไหน?

ในแง่ฟังก์ชั่นที่เตรียมไว้สำหรับบริการ ถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์ ตอบสนองความต้องการได้ทั้งลูกค้าที่มาพักโรงแรม และลูกค้าคนนอกที่อยากหาร้านเก๋ๆ เงียบๆ นั่งจิบไวน์ ดื่มกาแฟ กินอาหาร ในสถานที่ที่คนไม่แออัดมากจนเกินไป


        แต่ในองค์ประกอบที่ครบถ้วนนั้น มันเกิดจากการปะติดปะต่อของที่ไม่น่าจะเข้ากันให้มาวางรวมกันได้อย่างเหมาะเจาะ ภายใต้แนวคิด Collage of the Mismatched ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ของที่นี่ เพราะทั้งแนวคิดการออกแบบ ฟังก์ชั่นของสิ่งอำนวยความสะดวกที่แตกต่างกัน ลวดลายทางสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่หลากหลาย รวมถึงอารมณ์และบรรยากาศที่ที่ไม่เหมือนกัน แต่นำมาผสมผสานจัดวางหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ซึ่งก็เป็นการมอบประสบการณ์พิเศษแด่ผู้มาเยือนได้เช่นกัน


        เริ่มการใช้พื้นที่ริมแม่น้ำที่มีจำกัดให้ได้ประโยชน์สูงสุด เราจึงได้เห็นอาคาร3อาคารที่ประกอบกันเป็นรูปตัว U (บวก 1 ตรงจุดที่เป็นอาคารรีเซฟชั่น)ที่ห้องพักส่วนใหญ่มีหน้าต่างเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่เบื้องหน้า เป็นจุดขายสำคัญที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวที่นิยมบูติกโฮเต็ลให้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ห้องพักและห้องเพนต์เฮ้าส์ ในส่วนของโรงแรม เดอะ สลิล ริเวอร์ไซด์ ประกอบด้วยห้องพัก 235 ห้อง 9 รูปแบบ เริ่มต้นด้วยดีลักซ์ขนาด 30 ตร.ม.ไปจนถึงห้องเพนต์เฮาส์แบบสองห้องนอนขนาด 157 ตร.ม.ที่มีวิวสวยที่สุดในบรรดาห้องพักทั้งหมด และเป็นห้องเดียวที่คุณจะได้เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาในแบบพาโนรามา


      งานศิลป์ถือเป็นอีกจุดเด่นของ เดอะ สลิล ริเวอร์ไซด์-กรุงเทพ ที่จัดวางไว้ตามอาคารที่เป็นห้องพักและส่วนอื่นๆ โดยได้  เจนพณัฐ สุนทรสวัสดิ์” นักออกแบบชาวไทย ผู้อยู่เบื้องหลัง Window DisplayของBergdorf Goodman ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในนิวยอร์กมากว่า มากว่า 20 ปี รับหน้าที่เป็นภัณฑารักษ์ (Art Curator) ผู้คัดเลือกศิลปินชื่อดัง จำนวน 4 ท่าน ให้มาร่วมสร้างสรรค์ลวดลายเหนือจินตนาการ มีการผสมผสานกันระหว่างสัตว์ชนิดต่างๆ งานอุปมาอุปไมย ทำให้ได้ลวดลายแปลกตาไม่เหมือนใคร ถูกจัดวางในห้องพักและจุดต่างๆ ของโรงแรมเหมือนเป็นแกลลอรี่ที่มีชีวิต


        ศิลปินชาวไทยทั้ง4ท่านมีผลงานที่โดดเด่นไปตามสไตล์ของตัวเอง และได้รับการคัดเลือกให้ร่วมนำเสนอผลงานใน“สลิล เจอร์นีย์ ริเวอร์ไซด์” ได้แก่ ณัฐพล พิชัยรัตน์ ที่มีงานที่โดดเด่นด้วยการใช้เทคนิควาดลายเส้นด้วยมือ นักรบ มูลมานัส บัณฑิตเอกภาษาไทยคณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแต่มีพรสวรรค์ในการเป็นศิลปินที่โดดเด่นในเรื่องงานตัดแปะคอลลาจและกราฟิกร่วมสมัยที่มักจะสื่อถึงการผสมภาพย้อนยุคทั้งสไตล์ไทยและตะวันตกงานศิลปะที่สร้างชื่อให้กับนักรบเป็นการตัดภาพจากนิตยสารเก่าที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สังคมวัฒนธรรมวรรณคดีเทพนิยายมาสร้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นมา 
       ปัญญวัฒน์ พิทักษวรรณ ศิลปินวาดภาพประกอบชาวไทยที่มีชื่อเสียงในการสร้างศิลปะไทยร่วมสมัย เอกลักษณ์ของเขาคือการผสมผสานความไทยเข้ากับศิลปะในยุคต่างๆ เพื่อนำเสนอมุมมองใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความวิจิตร และเต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบเรโทร และ อรรถกฤษณ์ วรรณสอน หรือที่รู้จักกันในนาม Krishna the Fifth ศิลปินที่รังสรรค์ผลงานจิตรกรรมด้วยจินตนาการจากเรื่องเล่าของสวนเอเดนกับผลไม้ต้องห้าม


        สำหรับคอนเซ็ปต์และดีไซน์หลักของ เดอะ สลิล โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ที่แตกต่าง เริ่มจาก “Concept Living Space” ที่ประกอบไปด้วย Stay, Eat, Play , Relax, Work and Shopด้วยการทำงานร่วมกันของพาร์ตเนอร์เพื่อการสร้างประสบการณ์ในการแฮงก์เอาต์ที่แตกต่าง อาทิ นัดเพื่อนจิบกาแฟยามบ่ายที่ Shaloba คาเฟ่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมกาแฟร่วมสมัยของเอเชียเข้ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ด้วยการคัดสรรกาแฟชั้นเลิศด้วยความพิถีพิถันเพื่อให้ได้กาแฟอาราบิก้าที่มีคุณภาพดีที่สุด หรือจะเลือกนั่ง Brix Dessert & Brix Mini Bar ร้านขนมโฮมเมด บรันช์ยอดนิยม บริการเครื่องดื่มและของหวานแสนอร่อยทำให้สถานที่แห่งนี้เป็น 'สูตรแห่งความสุข' นั่งชิลที่บาร์ริมสระ พร้อมเพลิดเพลินกับของว่างแสนอร่อย สมูทตี้สดชื่น และเครื่องดื่มค็อกเทลแบบต้นตำรับ


       ค่ำหน่อย มูฟไปที่ NAVA – Kitchen ร้านอาหารที่โดดเด่นด้วยเมนูอาหารจากลำน้ำโขงซึ่งมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาอันอุดมสมบูรณ์มาสู่เมืองหลวงของประเทศไทย โดยได้รวบรวมวัตถุดิบจากพื้นที่ท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ นำมารวมกันที่ NAVA เพื่อสร้างสรรค์เมนูสไตล์โฮมเมดที่มีรสชาติดั้งเดิมแบบ ให้บริการตั้งแต่อาหารเช้าแสนอร่อย อาหารกลางวันแบบสบายๆ และอาหารค่ำในบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบ


       อิ่มหน่ำสำราญได้ที่ ถ้าชอบจิบเบียร์ ที่นี่มี Taproom by The River แชร์พื้นที่ร่วมกับ NAVA Terrace บาร์เบียร์ที่ให้บริการคราฟต์เบียร์นำเข้าถึง 8 แท็ป เติมเต็มพื้นที่ไลฟ์สไตล์เอาท์ดอร์ริมแม่น้ำแห่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากเบียร์ที่มีให้เลือกมากมายแล้ว สิ่งที่คัดสรรมาอย่างดียังช่วยให้ค้นหาเบียร์ที่เหมาะกับรสนิยมของคุณได้ง่ายขึ้นอีกด้วย


        แต่ถ้าชอบไวน์ แนะนำให้ไปต่อที่ MARs – The Wine Space ร้านไวน์แห่งแรกของ DeePlus Jud Hai Co., Ltd. (D+) ที่มุ่งเน้นไปที่การจัดหาไวน์จากโรงบ่มไวน์บูติกของครอบครัวในออสเตรเลียใต้และนิวซีแลนด์ นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมและมีคุณภาพ

       การเดินทางมาโครงการ สลิล เจอร์นีย์ ริเวอร์ไซด์ สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ ทั้งทางรถยนต์ รถประจำทาง หรือทางรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยลงที่สถานีสะพานตากสิน นอกจากนี้ยังมีบริการเรือรับ-ส่ง จากท่าเรือสลิล เจอร์นีย์ ริเวอร์ไซด์ ไปยังไอคอนสยามและท่าเรือสาทรอีกด้วย
        ส่วนThe Salil Hotel Riverside Bangkok สำรองห้องพักและสอบถามรายละเอียดเพิ่ม โทร. 02-844-8787 หรืออีเมล์ reservations@saliljourney.com

]]>
“ต้าห์อู๋” พลทหารหล่อตี๋ขยี้ใจ https://marshomme.com/aboy/532371/ Wed, 07 Dec 2022 11:15:00 +0000
         ข่าวคราวศิลปิน/ดารา/นักร้องเข้ากรมห่างหายจากหน้าฟีดไปนาน (จริงๆ ที่ผ่านมามีอีกหลายคนแหละ แต่แฟนคลับไม่ต้องคร่ำครวญเท่าไหร่นัก) แต่พอฟีดของ “ต้าห์อู๋ – พิทยา แซ่ฉั่ว” เข้ากรมนี่แหละ ที่มารัวๆ ทุกวัน นั่นแสดงว่า หนุ่มคนนี้แฟนคลับแน่นน่าดู


        “ต้าห์อู๋” กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิยาลัยเกษตรศาสตร์ เริ่มต้นวงการบันเทิงจากการประกวดร้องเพลง La Banda Thailand Season 2 ที่แม้จะไปไม่ถึงฝัน แต่เขายังคงเดินทางตามความฝันแบบไม่ย่อท้อ จนกระทั่งได้เข้าร่วมการประกวดในรายการ LAZ iCON ซึ่งต้าห์อู๋ ได้ทำผลงานเป็นที่ประจักษ์ และคว้าตำแหน่ง UPPER ได้ในทุกสเตจการแสดงระหว่างการแข่งในรายการ ทำให้เขานั้นได้ลำดับที่ 1 สำหรับการโหวตในรอบ FINAL และได้เดบิวต์ในวง LAZ1 ที่มีแฟนคลับแน่นๆ


Photo : IG oueiija

]]>
ปอนด์-ภูวิน คัมแบ็กใน “เพื่อนายแค่หนึ่งเดียว” https://marshomme.com/aboy/532367/ Wed, 07 Dec 2022 10:12:00 +0000         สิ้นสุดการรอคอยที่แสนนานสักทีกับแฟนคลับของ #ปอนด์ภูวิน เมื่อซีรีส์วายเรื่องใหม่ ที่เลตมาแสนนาน “เพื่อนายแค่หนึ่งเดียว Never Let Me Go” ได้ฤกษ์ออนตอนแรกวันอังคารที่ 13 ธันวาคมนี้แล้ว


       ทีมนักแสดงนั้น นอกจาก ปอนด์ ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์ และ ภูวิน ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน แล้ว ยังมีคู่รองเจิดๆ อย่าง เพิร์ธ ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร และ ชิม่อน วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์ ด้วย ดูทรงแล้ว เรื่องนี้ท่าทางจะปังๆๆๆ


        “เพื่อนายแค่หนึ่งเดียว” เล่าเรื่องราวของหนึ่งเดียว (ภูวิน ภูวินทร์) และแม่ ธัญญ่า (ออร์แกน ราศี) ที่กำลังตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่พ่อของเขาถูกลอบยิงจนเสียชีวิต ปาล์ม (ปอนด์ ณราวิชญ์) จับพลัดจับผลูให้ต้องมาดูแลคุณหนูหนึ่งเดียวในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัว เมื่อหน้าที่กับหัวใจ…กลายเป็นเรื่องเดียวกัน มาตามลุ้นกันว่า ชีวิตของทั้งสองคนจะเปลี่ยนไปอย่างไร?และความสัมพันธ์ของพวกเขาจะพัฒนาไปแค่ไหน?


“เพื่อนายแค่หนึ่งเดียวNever Let Me Go”
ติดตามชมได้ทุกวันอังคาร เวลา20.30 น. และทางYoutube : GMMTV

Text : Takeshi West
Photo : GMMTV
IG phuwintang

]]>
“อลัน คัมปานา” หนุ่มอายุ 19 ลูกครึ่งอิตาลี-หนองบัวลำภู พูดไทยและอีสานอย่างคล่อง https://marshomme.com/aboy/532361/ Mon, 26 Sep 2022 08:47:00 +0000         เด็กสมัยนี้ “โต” ไวจริงๆ ทั้งอาหารการกินเอย วิทยาการต่างๆ เอย ล้วนเป็นปัจจัยเสริมให้ร่ายกาย ‘แข็ง’ แรง เติบโตรวดเร็ว ยิ่งเด็กลูกครึ่งด้วยแล้ว ใหญ่โต เกินอายุ เช่นเดียวกับ อลัน คัมปานา (Alan Campana) นักแสดงหน้าใหม่เอี่ยมอ่อง วัยเอ๊าะๆ หนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาลี อายุ 19 ปี ที่มาพร้อมความสูง 185 ซม. ใหญ่โตเกินเด็กวัยเดียวกัน


        อลัน คัมปานา หรือน้องอลัน เป็นคนหนองบัวลำภู พูดไทยและอีสานได้คล่อง ปัจจุบันเรียนที่มหาวิทยาลัยการกีฬา กีฬาสุดโปรด ได้แก่ ว่ายน้ำ และบาสเกตบอล แต่ที่เห็นหุ่นฟิตๆ แบบนี้ เพราะอลันจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับฟิตเนส แม้บุคลิกภายนอกจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด หน้าตาซึมๆ มึนๆ ตามประสาเด็ก 19 ซุ่มซ่ามในบางครั้ง แต่พอจับแต่งองค์ทรงเครื่องเข้าหน่อย หล่อเป็นเทพบุตรโรมัน ราวกับรูปปั้นในกรุงโรม


          อลัน สนใจการแสดงมาตั้งแต่เด็ก เคยมาเรียนการแสดงที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน จากนั้นก็มีผลงานแบบกรุบกริบ พวกเดินแบบ และถ่ายโฆษณาสินค้าอยู่บ้าง อาทิ เดินแบบงานผ้าทอไทย ร้อยแก่นสารสินธิ์,งานผ้าทอศิลป์ ถิ่นลุ่มภู วิจิตรพัสตรา ศิลปาชีพไทย,งานแพรพรรณลุ่มภูสู่สากล EP5, แฟชั่นโชว์นิยมยีนส์ เป็นต้น แต่เร็วๆนี้ อลันกำลังจะมีผลงานการแสดงซีรีส์เรื่องแรก“รักชอบเจ็บHit Bite Love The Series”ที่มีกำหนดสตรีมมิ่ง มกราคม 2023 แต่ถ้าช่วงนี้สามารถติดตามอลันได้ที่ ไอจี @alan_cpn


Photo credit courtesy from บริษัทJinloe media workจำกัด

]]>
มังกร-รัชชานนท์ มือกลองสุดคิ้ว จากวง “Yes Indeed Band” https://marshomme.com/aboy/532351/ Thu, 16 Jun 2022 14:33:00 +0000
        ช่วงนี้แถวสยามสแควร์ ครึกครื้นเป็นที่สุด ตั้งแต่ประกาศให้เป็นพื้นที่รวมตัวกันทำกิจกรรมสร้างสรรค์ของวัยรุ่น วัยรุ่นมากหน้าหลายตากลับคืนย่านที่เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของวัยรุ่น ตั้งแต่ยุค 90’s เห็นบรรยากาศที่ต่างพากันออกมาเดินเต็มถนน ทั้งถ่ายรูป ช็อปปิ้ง และแสดงดนตรี จะไม่พูดถึงสีสันของสยามสแควร์ที่มีวงดนตรีแจ้งเกิดแบบชั่วข้ามคืนวง “Yes Indeed Band” ได้อย่างไร


        วงมัธยมเปิดหมวกที่ชื่อ Yes Indeed Band เป็นการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนๆ หลายโรงเรียนมาโชว์ดนตรีในช่วงเวลาเย็นๆ ถึงค่ำที่สยามสแควร์ แม้วงนี้จะมีถึง 5 คน ได้แก่ น้องพอร์ส ร้องนำ,น้องมังกร มือกลอง,น้องแพนเค้ก ร้องนำ,น้องทะเล กีตาร์โซโล่ และ น้องติน คีย์บอร์ด แต่ขอโฟกัสที่น้องมือกลองอย่างน้องมังกรลีลาการฟาดกลองของน้องแล้วบอกเลยว่าไม่ธรรมดา


         มังกร-รัชชานนท์ วรกิจไพบูลย์ จบการศึกษาระดับมัธยมจาก โรงเรียนทวีธาภิเศก ปัจจุบันเรียนที่ วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เรียนการตีกลองมาแต่เด็ก จึงทำให้มีสกิลการตีกลองไม่แพ้มืออาชีพ ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าคลิปของน้องมังกรจะถูกแชร์ลงไปบนโซเชียลมีเดียและมียอดเข้าชมมากกว่า 4.1 ล้านครั้ง และทะลุหลักแสนอีกหลายคลิป อยากรู้จักน้องมังกรให้มากกว่านี้ ตามไปฟอลไอจีน้องได้ที่ @m9nedrag0n

Photo @m9nedrag0n
FB :Yes Indeed Band

]]>
นักขี่ม้าหน้ามน หนุ่มหล่อจากไต้หวัน “Cheng Chang Fan” https://marshomme.com/aboy/532346/ Thu, 16 Jun 2022 13:14:00 +0000
        นานๆ จะเจอนักขี่ม้าหล่อๆ สักที ต้องพามาแนะนำกันหน่อย Cheng Chang Fan (范成章) หนุ่มไต้หวันคนนี้ เรียนขี่ม้ามาตั้งแต่เด็ก ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางนายแบบ ที่ทำให้มีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับไฮเอนด์ อาทิ Dior, Hugo Boss และ Burberry


         มีโอกาสได้แสดงซีรีส์วายชิ้นแรกในชีวิต Craving You เมื่อปี 2020 ด้านการศึกษา จัดว่าไฮโซทีเดียว เขาจบจาก University of the Arts ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้มีความรู้ด้านศิลปะและความงามดีทีเดียว นอกจากนี้ Chengยังเป็นเจ้าของร้านจัดดอกไม้ Cheng & Mach Exotic Florist ในไทเปอีกด้วย

Photo @chengchangfan

]]>
รู้จักคู่จิ้นสายฮาร์ดคอร์คู่ใหม่ #หล่งท็อป จากซีรีส์ “EvenSun ฉันนี่แหละนายอาทิตย์” https://marshomme.com/interview/532344/ Thu, 16 Jun 2022 12:17:00 +0000

         ปีก่อนว่าซีรีส์วายไทยคึกคักแล้วนะคะ ปีนี้คึกคักกว่าอีก เพราะผ่านไปแค่ครึ่งปี มีซีรีส์ออนไปแล้วเกือบ 40 เรื่อง ส่วนครึ่งปีหลังที่กำลังเร่งสร้างอีกไม่น้อย 30 เรื่อง รอชมกันเลยจ้ะ ฟินไปตามๆ กัน ส่วนเรื่องนี้ “EvenSun ฉันนี่แหละนายอาทิตย์” ไม่เคยมีข่าวเล็ดลอดมาก่อน จู่ๆ ก็ปรากฏตัวว่าสร้างเสร็จแล้ว รอออนปลายเดือนมิถุนายนนี้


       คู่นำอย่าง#บุ๋นเปรม ที่ว่าแซ่บแล้ว คู่รอง หล่งซื่อลี กับ ท็อป – ณธรรศ ตันเจริญ พี่ว่าเด็ดกว่า แม้จะโคจรมาพบกันแบบงงๆ ก็ตาม
        หล่งซื่อลี อายุ 21 ปี ลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์ ที่โด่งดังจากการเป็นเน็ตไอดอล ด้วยภาพลักษณ์นักมวยที่หุ่นดี หน้าดี จนสาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันกรี๊ดดด สลบ
        ส่วน ท็อป-ณธรรศ ตันเจริญ เริ่มงานแสดงชิ้นแรกจากภาพยนตร์“รด.เขาชนผีที่เขาชนไก่” (2015) ของผู้กำกับ กอล์ฟ ธัญวารินทร์ สุขะพิสิษฐ์ แต่มาโด่งดังมากๆ จากการประกวด The Face Men 5 ทีมโทนี่ รากแก่น ส่วนซีรีส์วาย “EvenSun ฉันนี่แหละ นายอาทิตย์” แม้จะเป็นงานปุ๊ปปั๊ปรับโชด แต่ก็น่าสนใจไม่น้อย


       ฉันนี่แหละ นายอาทิตย์ ใช้เวลาถ่ายทำนานไหมเรื่องนี้
       ท็อป : ประมาณ 4 คิวครับ
       หล่ง : ของเราถ่ายไม่เยอะ เพราะเราไปถ่ายในค่ายมวยครับ เลยใช้คิวน้อย

       อยากให้ทั้งสองคนเล่าคาแรกเตอร์ของตัวเองในซีรีส์ให้หน่อยครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง
       หล่ง : ของหล่งเป็นตัวละครชื่อ “อาชิง” ครับ อาชิงเป็นนักมวยที่มีความใฝ่ฝันอยากจะต่อยมวยอาชีพ อยากจะมีคู่ชกจริงจัง แต่ปมขัดแย้งมันอยู่ตรงที่ คุณพ่อของเขาไม่อยากให้ชกมวย เพราะคุณพ่อทำธุรกิจสีเทา และคุณพ่อจะไม่อยากให้ลูกออกไปคบเพื่อนและมีสังคมภายนอก เนื่องจากการทำธุรกิจสีเทาทำให้มีศัตรูเยอะ เลยเป็นห่วงลูก แต่อาชิงก็พยายามทำทุกทางเพื่อที่จะให้ตัวเองได้ไปต่อยมวยให้ได้ครับผม
       ท็อป :ส่วนคาแรกเตอร์ของ “มังกร” ก็จะเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ ๆ นิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด จะเป็นคนที่แสดงออกมาทางสีหน้าแววตามากกว่า ส่วนตัวมังกรเข้ามามีบทบาทในเรื่องอย่างไร คือคุณพ่อของมังกรเป็นหนี้ แล้วเราก็ต้องเข้ามาเป็นขัดดอกแทนคุณพ่อ ทำให้มาเจอกับอาชิงครับ เป็นคู่ซ้อมของอาชิง


      ตอนที่รับเล่นซีรีส์เรื่องนี้ ตัดสินใจนานไหม
      ท็อป :ถามว่านานไหม มันพึ่งหลังจากโควิดอะครับ พอมีงานติดต่อมา ผมก็รับเลย ไม่ได้คิดอะไรมาก
      หล่ง : พอเห็นตัวบท หล่งชอบ อยากเล่นเป็นนักมวยครับ ด้วยความที่เราเป็นนักมวยอยู่แล้ว เลยอยากเล่นบทที่มีใกล้กับสิ่งที่เราถนัดก็คือนักมวย ก็เลยรับครับ

      เคมีของเราเป็นอย่างไรบ้าง ต้องworkshopนานไหมก่อนที่จะเปิดกล้อง
      หล่ง : เวิร์กชอป 2 วัน เองเนอะ ส่วนเรื่องเคมี เอาตามจริงเลยนะครับ ตอบแบบไม่สวยงาม ตอนเวิร์กชอปผมรู้สึกว่าเราเล่นคู่กันน่าจะยาก เพราะว่ายังไม่ซิงค์กันเลย
      ท็อป : ยังไม่รู้จักกันเลย ใช่
      หล่ง : ยังไม่สนิทกันพอ แต่พอมาถึงหน้ากล้องเหมือนเราก็พอมีประสบการณ์กันมาทั้งคู่ แล้วจู่ ๆ มันก็เกิดอาการซิงค์กันขึ้นมา ทำไมเราเล่นได้ แต่ตอนเวิร์กชอปเราเล่นไม่ออก


      ตอนเวิร์กชอปรู้สึกอย่างไร ที่ทำให้เรารู้สึกว่าจะเล่นคู่กับคนๆ นี้ยากจังเลย
      หล่ง : ของผมก่อนนะ ผมรู้สึกว่ากำแพงเขาสูงมาก สูงและหนามาก ผมไม่สามารถทลายกำแพงเข้าไปได้แน่ ๆ
      ท็อป : ก็ค่อนข้างที่จะสูงนะ ตอนนั้นมันปุ๊บปั๊บด้วย ไม่มีเวลาเตรียมตัว พอต้องมาเวิร์กชอป 2 วัน เราจะทำตัวอย่างไรดี จะเข้าหาเขาอย่างไร ทำอย่างไร เราก็โอเคอย่างนั้นเราค่อย ๆ ปรับตัวก็แล้วกัน แต่มันไม่ทันแล้ว จะถ่ายแล้ว

      ฉากที่หนักหน่วงที่สุดในซีรีส์
      ท็อป : ของผมเลยคือต่อยมวย เพราะผมต่อยมวยไม่เป็น เลยต้องเป็นคู่ซ้อมให้เขา เราก็ไม่รู้จะทำอย่างนี้ เขาก็สอนเรานะ มันไม่ยาก แต่มันเหนื่อยเวลาเล่นด้วยพูดด้วยมันก็เหนื่อยมาก หายใจไม่ทัน
      หล่ง : ใช่ เหนื่อยมาก
      ท็อป : เหนื่อยมาก
      หล่ง : แล้วพูดไม่รู้เรื่อง พอเราเหนื่อยจะพูดไม่รู้เรื่องครับ

      หล่งล่ะ ฉากที่สุดหนักหน่วง ยากที่สุด
      หล่ง :หนักหน่วงของหล่งน่าจะเป็นการที่บอกรักผ่านการต่อยมวย ซึ่งมันยากมาก คือการต่อยมวยไม่สามารถเป็นการบอกรักได้เลย แต่จะทำอย่างไรให้มันออกมาเป็นการบอกรักได้

      จูบแรกในซีรีส์
      ท็อป : ถ้าเราพูดเป็นการจะสปอยไหมท็อป
      หล่ง : มันคือจุดพีกของซีรีส์เลยนะ

      ไม่สปอยหรอก พูดได้
      ท็อป : รอดูดีกว่าว่าจูบหรือไม่จูบ
      หล่ง : ตอนแรกจะมุมกล้องนะครับ แต่ไม่ถึงใจผู้กำกับ ก็เลยจัดจริงเลย

      ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร
      ท็อป : ของผมก็จะแบบ ผมไม่ได้เป็นคนเข้าหาเขานะ พูดได้หรือเปล่า หลุดแล้วเนี่ย โอเค พูดดีกว่า ถามว่าสนุกไหมก็สนุกแปลก ๆ ดี
      หล่ง : มันเป็นความรู้สึกใหม่ ๆ ดีกว่า มันไม่ถึงขั้นแปลกใช่ไหม เป็นความรู้สึกใหม่ ๆ ที่เรายังไม่เคยลอง แต่พอลองปุ๊บมันก็ไม่แย่ เป็นครั้งแรกเลยที่จูบกับผู้ชาย


        เทียบความยาก ระหว่างตอนเล่นพ่อกับลูก กับเรื่องนี้
        ท็อป : เรื่องนั้นแอบยากอยู่นะพี่ รู้สึกว่ามันเป็นเรทที่ยากครับ หนักเลยครับ รู้สึกตอนที่ออกข่าวก็มีคนมาถามว่าทำไมมีฉากนั้นด้วย เพราะตอนคุย ก็อย่างที่บอกผมไม่ได้ 100% ขนาดนั้นครับ

        แต่หล่งลีเหมือนจะเล่นซีรีส์วายมาหลายเรื่อง?
        หล่ง : ครับผม แต่ว่าที่เล่นมายังไม่เคยมีคู่ไง เป็นซับเมนเสียมากกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเล่นที่เล่นแบบมีคู่ ถามว่าแตกต่างจากการที่เคยเล่นมาก่อนไหม มากๆ ครับ เพราะเราต้องพยายามหาเคมี หาความเข้าใจกัน รู้ใจกันว่าเราจะเล่นจังหวะไหน อย่างไร ปกติถ้าเล่นคนเดียวจะสบายกว่า แต่พอมีคู่มามันต้องรู้ใจกัน ต้องสื่อกันให้ถึง ถ้าสื่อไม่ถึงปุ๊บ เราเล่นกันไม่ได้แน่ ๆ ครับ แต่พอวันเปิดกล้องจริงมาถึง 1 2 3 ก็เล่นได้แบบงง ๆ ดีใจที่ผู้กำกับชม

        รู้สึกอย่างไรที่เราต้องรับบทในซีรีส์วายที่เล่นเป็นคู่เรื่องแรก
         หล่ง : ผมทำตัวไม่ถูกครับ ไม่รู้ว่าเราควรจะทำอย่างไรให้ทุกคนกรี๊ด ผมก็ปรึกษาผู้กำกับนะว่า ทำอย่างไร ไปปรึกษา acting coach ด้วย เขาบอกว่าไม่ต้องพยายามอะไรเลย ถ้าเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เล่นแล้วเราสองคนมีความสุข คนดูก็จะมีความสุขไปด้วย เราก็แค่ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุดครับ
          ท็อป : การจะเล่นคู่กันมันต้องค่อย ๆ รู้จักกัน เข้าหาเขาเยอะ ๆ พยายามรู้จักกันต้องมีเวลา แต่เรื่องไม่มีเวลา ซึ่งเราก็ต้องทำอย่างไรก็ได้ให้มันเปิดใจ แล้วเล่นให้มีความสุข ให้รู้สึกว่าคนนี้เราเล่นคู่กับเขานะ


          แต่ซีรีส์จะออนไปแล้ว จะกดดันกว่า เพราะผู้ชมจะเกิดความคาดหวัง
          หล่ง : ใช่
          ท็อป : แอบกดดันนิดหนึ่งเนอะ
          หล่ง : ถามว่ากดดันไหม กดดันนะ เพราะว่าเราไม่รู้ว่ากระแสของเราจะมาในทิศทางไหนเลย เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า เราจะต้องเตรียมรับกระแสแบบไหน เราไม่รู้เลย
          ท็อป : เรายังมองไม่เห็นครับ ต้องรอซีรีส์ออนอย่างเดียว

          ท็อปเข้าวงการจากการแสดงหนังก่อนประกวดThe Face Men อย่างไรถึงไปประกวดเวทีนี้
          ท็อป : ตอบตรงๆ ไม่เคยดูThe Faceเลยนะ เราไม่รู้เลยว่ารายการนี้เป็นอย่างนี้ เดินแบบก็ไม่เป็น ถ่ายรูปก็ไม่เป็น แต่พอติดเข้าไปเราก็ทำ ๆ ตามที่เขาบอกได้เฉยเลย ชูป้ายขึ้นมาว่าเราได้ เราก็งง ช็อก ๆ อยู่แป๊บหนึ่ง จริง ๆ พอเข้ารอบไปได้เขาจะมีครูสอนให้ เราก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากตรงนั้นได้ด้วยครับ

          หล่งล่ะ
          หล่ง : หล่งเริ่มจากการต่อยมวยครับ ถามว่านานไหม หล่งเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองเริ่ม เข้าวงการไม่ถึงปีนี่เองครับ ที่มีคนรู้จักมากขึ้น หล่งเริ่มจากการต่อยมวยที่มีคนให้หล่งรีวิวสินค้า หล่งก็เริ่มรับรีวิวตัวแรก แล้วก็มีตัวที่ 2 มาเรื่อย ๆ จากนั้นก็มีคนรู้จักมากขึ้น แล้วก็มีทางซีรีส์ติดต่อมาบอกลองมาแคสต์ซีรีส์ดู เรื่อง I’m Your King ก็ลองไปแคสต์ดู พอผ่านปุ๊บ เราก็รู้สึกว่าตัวเองชอบ จากนั้นก็ไล่แคสต์ไปเรื่อย ๆ ครับ


       แสดงว่าทุกวันนี้ถือว่าเราทิ้งอาชีพนักมวยไปแล้วใช่มั้ย
       หล่ง : ไม่ทิ้งครับ ยังอยู่ในชีวิตผมตลอดเลย เราเกิดจากตรงนั้น มีคนรู้จักเราจากตรงนั้น มันทำให้เรามีเส้นทางในการพัฒนาตัวเองไปได้

       คิดอย่างไรกับวงการบันเทิงบ้าง คาดหวังอะไรกับงานในวงการบันเทิงบ้าง
       หล่ง : ของผมค่อนข้างจะบอกตัวเองว่าเราต้องมองไว้สูง ๆ ผมอยากมีชื่อเสียงไปถึงขั้นระดับต่างประเทศนะครับ พอเรามีชื่อเสียงในระดับต่างประเทศ อยากให้คุณพ่อที่อยู่ต่างประเทศได้เห็นว่าเรามีชื่อเสียงถึงขั้นนอกประเทศไทยแล้วนะ
       ท็อป : ส่วนท็อปไม่คาดหวังอะไรมาก แต่แค่เป็นคนที่เวลาทำอะไรก็ตามคือถ้ารู้สึกว่ามันมีอะไรบกพร่องหรือผิดพลาด เราก็จะพยายามปรับเปลี่ยนพัฒนาตรงนั้น แล้วก็มองเป้าหมาย พยายามพัฒนาตัวเอง การเดินบันได ปกติคนเราจะเดินขั้นหนึ่ง แต่เราต้องเดินให้มากกว่าขั้นหนึ่ง 2 ขั้น 3 ขั้น เพื่อพัฒนาตัวเองขึ้น ๆ ไปครับ


        กับซีรีส์เรื่องนี้ เต็ม 10 เราให้คะแนนเท่าไร
        หล่ง : เต็ม 10 เหรอครับ ณ ตอนที่ถ่ายอยู่ผมรู้สึกว่าผมให้เต็ม 10 แต่พอเรากลับมานอนคิด ผมให้ 5 เพราะว่าเรามีความโลภ รู้สึกว่าทำไมตอนนั้นเราไม่ทำแบบนี้ ทำไมตอนนั้นเราไม่พูดอย่างนี้ ด้วยความที่เรามีความโลภไง ตอนถ่ายทำโอเคเต็ม 10 พอกลับมานอนคิดให้ 5 เหมือนว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้
        ท็อป : ส่วนท็อป ถามว่าดีไหม เราก็พยายามเต็มที่นะ แต่เรื่องบทเราก็ไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น เราเป็นคนที่ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องความจำ พอจำได้เสร็จแล้วเราก็ลืม เราเป็นคนที่จำไม่ค่อยได้ สมาธิสั้น

         งานชิ้นถัดไปเป็นอย่างไรเรื่องอะไรบ้าง
         ท็อป : ตอนนี้ของผมยังไม่มีเลยครับ รอ coming soon แต่น่าจะกลับมารับงานเร็ว ๆ นี้
         หล่ง : ของหล่งก็จะเป็นเรื่อง “Love Syndrome รักโคตรโหดอย่างมึง”เป็นซีรีส์วาย แสดงคู่กับแฟรงค์ ธนัตถ์ศรันย์ แล้วก็มีหนังภาพยนตร์ 1 เรื่องที่เพิ่งถ่ายจบไป ชื่อเรื่อง “Bad Social” ครับ หนังไม่วายนะ หนังเป็นพี่ชายที่รักน้องสาวมาก ๆ


        เตรียมรับมือกับความคาดหวังของแฟนคลับไว้หรือยัง เพราะอย่างหล่งเองก็มีข่าวกับต้นหอม คิดว่ามันจะทำให้งานมันสะดุดไหม
        หล่ง : ถามว่าสะดุดไหม อาจจะไปสะดุดเฉพาะบางกลุ่ม เพราะว่าช่วงนี้ ณ ปัจจุบันเรามีความหลากหลายทางเพศ และมีความลื่นไหลทางเพศมากขึ้น การที่เราจะจิ้นกับใครหรือว่าจะถูกมองว่าเคมีตรงกัน มันไม่จำกัดเรื่องเพศแล้ว เราควรจะมองว่าจะเป็นแค่บทละครหรือว่าเป็นชีวิตจริงครับ เราไม่ได้เสียอะไร แค่เรารู้สึกว่าเราได้สัมผัสว่าเคมีเราโอเคกับคนนี้ เราอยู่กับคนนี้เราสบายใจ แล้วแฟนคลับก็ชอบเรา เราก็โอเค เราแฮปปี้ เราก็ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่คอย support เรา ไม่ว่าจะเป็นคู่ไหนก็ตาม


         ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร
         ท็อป : ของผมก็จะแบบ ผมไม่ได้เป็นคนเข้าหาเขานะ พูดได้หรือเปล่า หลุดแล้วเนี่ย โอเค พูดดีกว่า ถามว่าสนุกไหมก็สนุกแปลก ๆ ดี
         หล่ง : มันเป็นความรู้สึกใหม่ ๆ ดีกว่า มันไม่ถึงขั้นแปลกใช่ไหม เป็นความรู้สึกใหม่ ๆ ที่เรายังไม่เคยลอง แต่พอลองปุ๊บมันก็ไม่แย่ เป็นครั้งแรกเลยที่จูบกับผู้ชาย

         ถามท็อปในฐานะที่เป็นนายแบบ ถ้าแฟนคลับRequestอยากให้ถ่ายรูปชุดว่ายน้ำเซ็กซี่
        หล่ง : ตอบสิ เขาถามพี่
        ท็อป : ผมจะเป็นคนที่ค่อนข้างconflictกับการถ่ายรูปถอดเสื้อผ้ามาก ๆ ถ่ายได้นะ แต่เราไม่ค่อยอยากลงโซเชียลมาก เพราะรู้สึกว่ามันจะเกร่อไป มันช้ำ เบื่อ เห็นอีกแล้วเหรอ พยายามค่อย ๆ ออกมาทีละนิด ค่อย ๆ อยากให้เขาว้าวมากกว่า

ซีรีส์“EvenSunฉันนี่แหละนายอาทิตย์
สตรีมมิ่งทางiQiyi29 มิถุนายนนี้

Text Takeshi West
Photo : Issares Chosawai

]]>
“เบนจามิน เดวิส” ความหวังใหม่ของทีม #ช้างศึก ไทย https://marshomme.com/scoop/532338/ Wed, 11 May 2022 08:40:00 +0000
          สกอร์ 5-0 ที่ทีมช้างศึกไทยถล่มสิงคโปร์ยับ นอกจากจะเรียกรอยยิ้มและความหวังในการเข้ารอบลึกๆ ของทีมฟุตบอลไทยในศึกซีเกมส์ที่เวียดนามให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่แพ้ไปนัดแรก ยังแจ้งเกิด เบนจามิน เจมส์ เดวิส กองกลางทีมชาติไทยชุดยู 23 ที่ทำประตูสุดสวยจนแฟนชาวไทยประทับใจสุดๆ


          “เบนจามิน เจมส์ เดวิส” หรือที่เราเรียกจนติดปากว่า “เบน เดวิส” เป็นนักเตะที่สามารถเลือกได้ 3 สัญชาติทั้ง เวลส์ ที่เป็นเชื้อสายที่มาจากพ่อไทย เชื้อสายที่มาจากแม่ รวมถึง สิงคโปร์ เป็นประเทศที่เดวิส ย้ายไปอยู่ขณะที่คุณพ่อรับหน้าที่เป็นผู้จัดการสโมสรฟุตบอลเยาวชน JSSL Singapore เบน เดวิส เริ่มเรียนโรงเรียนกีฬาของสิงคโปร์ ก่อนบ้านไปเรียนไฮสกูลที่อังกฤษ และไต่เต้าการเป็นนักฟุตบอลที่นั่นจนกระทั่งได้เข้าร่วมทีมฟูแล่มชุดใหญ่ และมีโอกาสได้ลงแข่งในศึกคาราบาวคัฟ ฤดูกาล 2019-2020 ด้วย


        ส่วนอนาคตกับทีมชาติไทย เบน เดวิส เข้าร่วมทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อปีที่แล้ว และได้สร้างผลงานที่น่าจนจำเมื่อวานนี้ อ่ะ ส่งใจเชียร์ทีมชาติไทยด่วนๆ หาทางสดใสรอเราอยู่


Photo : @ben_james_davis
             @love.all.benjamindavis
             @ben_james_davisfc

]]>
“ดัง-ณัฎฐ์ฐชัย” พระเอกหน้าใหม่ที่กำลังมาแรงจากซีรีย์ “แล้วแต่ดาว” Star In My Mind https://marshomme.com/aboy/532336/ Wed, 11 May 2022 07:56:00 +0000
        ดาวดวงใหม่กำลังจะจุติ ดาวไหนล่ะ ก็ #ดาวเหนือ ที่อยู่คู่กับ #คาบคลื่น ต้อนรับการลงจอของซีรีส์วายเรื่องใหม่สักหน่อย เพราะไหนๆ ก็มีคนเริ่มถึงกันมากขึ้น (แม้ส่วนหนึ่งจะแอนตี้ โดยเฉพาะแฟนนิยาย ที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์กับแคสต์ติ้งซีรีส์พี่น้อง “แล้วแต่ดาว” กับ “ขั้วฟ้าของผม” เท่าใดนัก)

        แต่ฟันธงไปเลยว่า “ดัง-ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ” นักศึกษาหนุ่มจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขา Computer Innovation Engineering สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จะดังชมชื่อเร็วๆ นี้


        ดังณัฎฐ์ฐชัย เกิดปี ค.ศ.2000 ถ้าจะให้นับอายุก็แค่ดูตามปีคริสตศักราชก็จะรู้เองโดยไม่ต้องบวกลบให้ปวดหัว ดังจัดว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ซิงๆ เพราะนอกจากเรียนหนังสือที่ลาดกระบังแล้ว งานอดิเรกอื่นๆ ก็มีแค่เล่นกีฬาบาสเกตบอล ฟุตบอล และเข้าฟิตเนสเท่านั้น โดยงานแสดงซีรีส์เรื่องแรก “แล้วแต่ดาว” ที่กำลังออนแอร์อยู่


        “แล้วแต่ดาว” เป็นเรื่องราวของคนแอบรัก ที่ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็ยังจะรักแค่คนเดิม เหมือนกับดาวเหนือที่ต่อให้โลกจะหมุนไปอีกสักกี่รอบ ดาวเหนือก็จะยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิม แค่รอเวลาที่ใครอีกคนจะยอมเปิดใจ แล้วปล่อยให้ดาวนำทาง ดาวเหนือ (ดัง ณัฎฐ์ฐชัย) โคจรมาเจอกับรักครั้งแรกอีกครั้งอย่าง คาบคลื่น (จุง อาเชน) เพื่อนร่วมชั้นที่เขาเคยบอกชอบก่อนจะบินไปเรียนต่อที่เยอรมัน แต่คำสารภาพที่รวบรวมความกล้ามานานกลับได้รับเพียงคำว่า “เดินทางปลอดภัยนะ” และการโคจรมาเจอกันครั้งนี้ก็ทำให้ ดาวเหนือมั่นใจว่าต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ดาวเหนือก็ยังคงอยู่ที่เดิมอยู่ดี คือยังคงรักคาบคลื่นเหมือนเดิม


แล้วแต่ดาวStar In My Mind
ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา20.30 น. ทางช่องGmm25
รับชมย้อนหลังที่Viu เวลา22.30 น.
Photo @dunknatachai

]]>
JUSTIN BIEBER X VESPA เป็นการ Collaboration ที่หลายคนรอคอย https://marshomme.com/lifestyle/532330/ Wed, 20 Apr 2022 08:00:00 +0000
         ไม่มีวี่แววมาก่อนว่าสองป๊อปไอคอนแห่งยุค อย่าง “จัสติน บีเบอร์” กับ “เวสป้า” จะโคจรมาเจอกันได้ แต่จู่ๆ โปรเจกต์คอลแลบสุดเก๋ “JUSTIN BIEBER X VESPA” ก็ปล่อยคลิปเปิดตัวอย่างเป็นทางการออกมาทางสื่อออนไลน์ ซึ่งก็เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาแฟนคลับได้ไม่น้อย


        งานคอลแลบของเวสป้ากับแบรนด์ดังๆ เคยมีมาอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Giorgio Armani, Christian Dior และ Sean Wotherspoon ซึ่งแบรนด์ทั้งหมดร่วมกันผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริงให้เข้ากับสไตล์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของ Vespa เพื่อพัฒนาคอลเลกชั่นสุดพิเศษ


         ในปีนี้เป็นเวลาสำหรับการทำงานร่วมกัน ระหว่างศิลปินที่เป็นต้นแบบของวัฒนธรรมป๊อประดับโลกอย่าง Justin Bieber ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและมีแฟนนับล้านทั่วโลก กับแบรนด์ Vespa เพื่อเปิดตัว JUSTIN BIEBER X VESPA เวสป้าเอ็กซ์คลูซีฟโมเดลใหม่ที่ออกแบบและสร้างสรรค์โดย จัสติน บีเบอร์


        ความหลงใหลในแบรนด์เวสป้าของบีเบอร์เป็นที่รู้จักกันมานาน จัสตินให้สัมภาษณ์ ไว้ว่า

        “ครั้งแรกที่ฉันขี่เวสป้าคือที่ไหนสักแห่งในยุโรป อาจจะเป็นลอนดอนหรือปารีส ฉันจำได้แค่ว่าเห็นเวสป้าและรู้สึกว่า ฉันอยากขี่มันสักคัน' และฉันมีช่วงเวลาที่ดีมาก มีเพียงลมที่พัดผ่านเส้นผมของฉัน มันมาพร้อมอิสรภาพ และความสนุก”


        JUSTIN BIEBER X VESPA มาพร้อมกับสีขาวไล่ระดับซึ่งเป็นคุณลักษณะของสไตล์พื้นฐานที่ทำให้ Vespa คันใหม่โดย JUSTIN แตกต่างออกไปสีขาวเป็นสีที่จัสตินเลือกใช้ ผ่านทุกองค์ประกอบใน Vespa Sprint คันใหม่ ตั้งแต่เบาะที่นั่งไปจนถึงที่จับไป ซี่ล้อ โลโก้ของแบรนด์ และเปลวไฟที่วาดบนตัวรถยังเป็นโทนสีขาว นั่นคือความปั่นป่วนที่นักร้องต้องการออกแบบเพื่อรวบรวมแรงผลักดันที่สร้างสรรค์ ความมีชีวิตชีวา และความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นค่านิยมที่มีทั้งในตัวบีเบอร์และเวสป้า


         ตัวเครื่องยนต์คลาสสิก 50, 125 และ 150 cc ความจุที่สร้างประวัติศาสตร์ของ Vespa ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยคำนึงถึงกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมล่าสุด รูปทรงที่สดใสและอ่อนเยาว์ของตัวรถทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาแต่ให้การปกป้อง ในขณะที่แฮนด์จับที่มีไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ชวนให้หลงใหลอย่างไร้ที่ติ รองรับจอแสดงผล TFT มัลติฟังก์ชั่นสีเต็มรูปแบบที่ทันสมัยสอดคล้องกับฟังก์ชันของสมาร์ทโฟนทั้งหมด ไฟ LED แบบ Full-Led และขอบล้อขนาด 12” อันตระการตาเป็นผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมของการผสมผสานสไตล์และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน


        ลิมิเต็ดอิดิชั่นสุดพิเศษนี้เสริมด้วยคอลเลกชั่นอุปกรณ์เสริมสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า ถุงมือ 1 คู่ และหมวกกันน็อคสีขาวล้วนพร้อม “จัสติน สปิน” เปลวไฟ จะทำให้ประสบการณ์ Vespa เย็นลง! เปิดให้จองล่วงหน้าในวันที่ 20 เมษายนนี้ สาวกเวสป้าเตรียมเข้าเว็บไปจองได้เลย


#MarsHomme
#JustinBieberXVespa
#Vespa
#justinbieber

]]>