Warning: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at /var/www/marshomme.com/wp-content/plugins/wp_mgr_id/wp_mgr_id.php:1) in /var/www/marshomme.com/wp-includes/feed-rss2.php on line 8
MarsHomme – Marshomme https://marshomme.com Tue, 04 Jan 2022 14:19:17 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.2.20 https://marshomme.com/wp-content/uploads/2019/10/logo2_icon-90x90.png MarsHomme – Marshomme https://marshomme.com 32 32 “Young Royals” เกย์ซินเดอเรลล่า 2021? https://marshomme.com/scoop/532068/ Fri, 13 Aug 2021 02:27:00 +0000
        พล็อตเรื่องแนว #ซินเดอเรลล่า หรือรักต่างชนชั้นระหว่างเจ้าชายผู้สูงศักดิ์กับสามัญชนผู้ต่ำต้อยที่โชคชะตาก็พาให้เขาทั้งคู่มาเจอกัน ยังคงคลาสสิกและถูกนำมาใช้บ่อยๆ เพียงแต่เรื่องราวที่ถูกดัดแปลงตามยุคสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องมีรองเท้าแก้ว แม่เลี้ยงใจร้าย และงานเต้นรำอันหรูหราเสมอไป


        ล่าสุด Netflix มีซีรีส์ใหม่ “Young Royals” ที่นำเสนอเรื่องราวของราชวงศ์สวีเดนรุ่นใหม่ ที่พ่วงมาด้วยเรื่องราวความรักครั้งแรก เพศวิถี หน้าที่ในครอบครัว ภาระผูกพันทางสังคม ชนชั้น และการตระหนักรู้ในตนเอง นับเป็นความกล้าที่จะผนวกเรื่องราวทั้งหมดนี้ในซีรีส์วัยรุ่น โดยเฉพาะการเล่นประเด็นการเป็นคนหลากหลายทางเพศในราชวงศ์ชั้นสูง (ฝรั่งคงไม่ซีเรียสนักหรอกกับประเด็นนี้ เพราะเขาพูดเรื่องสิทธิ และความเท่าเทียมกันมานานแล้ว นั่นคือยุโรป แต่ประเด็นเดียวกันนี้คงไม่เหมาะกับราชวงศ์ในเอเชียหรือที่อื่นๆ เพราะบริบททางสังคมและวัฒนธรรมมันต่างกันมาก ฉะนั้นก่อนจะชื่นชมหรือยกยอปอปั้นจนเกินจริง ก็ควรพิจารณาสิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้ประกอบด้วย)


        Young Royals เล่าเรื่องราวของเจ้าชายแห่งราชวงศ์สวีเดนผู้ดื้อรั้นอย่าง “วิลเฮล์ม” หรือที่เพื่อนๆ เรียก “วิลเล” ที่ไปก่อเรื่องก่อราวในผับจนกระฉ่อนไปทั่วโซเชียลมีเดีย สร้างความอับอายไปทั่ว แน่ละ หม่อมแม่ หรือสมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน จำต้องย้ายลูกชายคนรองตัวแสบมาอยู่ในโรงเรียนประจำ Hillerska อันทรงเกียรติ ที่มีแต่บรรดาลูกหลานอีลิตเป็นส่วนใหญ่


        นั่นก็จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตวิลเล เพราะที่นี่เองที่เขาได้พบรักกับ “ไซมอน” หนุ่มสามัญชนที่มีแนวคิดสังคมนิยมจ๋ามากๆ นักเรียนแสนธรรมดาผู้นี้ เข้ามาเรียนในเรียนในโรงเรียนที่มีแต่ลูกหลานคนในสังคมชนชั้นสูง ลูกหลานตระกูลใหญ่โตในประเทศนี้ ได้อย่างไรนั้น ในซีรีส์ยังไม่ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ เพียงแค่ฉายภาพ “ไซมอน” ไว้เฉยๆ ว่า มาจากครอบครัวคนชั้นกลางที่ค่อนไปทางเกือบจน พ่อแม่แยกทางกัน เขาอาศัยอยู่กับแม่และน้องสาวที่ชื่อ “ซาร่า” ซึ่งเรียนอยู่ชั้นเดียวกัน และเป็นนักเรียนแบบไป-กลับ ต่างจากบรรดาลูกเจ็ตเซ็ตเตอร์ทั้งหลายที่ได้นอนในห้องส่วนตัวเก๋ๆ มีห้องน้ำในตัว พร้อมทีวี โต๊ะอ่านหนังสือ และเฟอร์นิเจอร์ครบครัน


        เรื่องราวที่เกิดขึ้น Hillerska แห่งนี้ ยังเชื่อมโยงกับกลุ่มตัวละครในโรงเรียนประจำ ทั้งลูกพี่ลูกน้องคนที่สองของราชวงศ์สวีเดน, เฟลิซสาวน้องผิวสีที่พยายามดิ้นรนเพื่อเป็นลูกสาวที่สมบูรณ์แบบตามที่แม่ของเธอกดดันให้เธอเป็น, ซาร่า น้องสาวของซีม่อน ผู้ปรารถนาให้เธอเป็นเหมือนเพื่อนที่ร่ำรวยและมีเกียรติมากขึ้น


        เรื่องราวความรักครั้งแรกของวิลเฮล์มและไซมอน เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่วิลเลเข้ามาโรงเรียน ซึ่งแน่นอน บุคคลระดับราชวงศ์มาเรียนก็ต้องต้อนรับกันให้สมพระเกียรติเจ้าชายหน่อย อีริค พี่ชายของวิลเล และเป็นมกุฎราชกุมารของสวีเดน เป็นคนมาส่งน้องชายด้วยตัวเอง ความประทับใจในตัวไซม่อน บวกกับการเป็นคนที่ชัดเจนในเรื่องแนวคิดสังคมนิยมที่ปฏิเสธชนชั้น การกล้าเถียงกับเพื่อนอีลิตและครูในชั้นเรียนเรื่อง “ภาษีและการเลี่ยงภาษีของคนรวย” เป็นสิ่งที่เจ้าชายทรงปิ๊งในทันที


        ความรักที่ก่อตั้งทีละน้อย ตามมาด้วยความขัดแย้งที่ต้องเลือกระหว่าง “ตัวเอง” กับ “หน้าที่ของตัวเอง” เมื่อจู่ๆ วิลเล ได้รับโทรศัพท์จากสำนักพระราชวัง เพื่อแจ้งข่าวการสิ้นพระชมน์ของมกุฎราชกุมารอีริค พี่ชายของเขา สถานะของวิลเลเปลี่ยนไปในช่วงข้ามคืน เขาถูกเลื่อนลำดับขึ้นเป็นมกุฎราชกุมารคนต่อไปในทันที แน่นอนว่าสถานะนี้มี “หน้าที่” ที่หนักอึ้งรออยู่ในฐานะ ว่าที่กษัตริย์ของสวีเดนในอนาคต ความโกรธและความสับสนที่ค่อยๆ เผาผลาญจิตใจก็ปรากฏขึ้น
 
        วิลเลใช้เวลาครึ่งแรกของซีรีส์เพื่อปฏิเสธแรงดึงดูดของเขาที่มีต่อไซม่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะหมกมุ่นอยู่กับเขา ทั้งสายตาที่จ้องมองมาก การเสี่ยงที่จะสัมผัสนิ้วก้อยที่เป็นความลับ ทำให้เขาใกล้ชิดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตราบเท่าที่เขาสามารถจะทำได้ เรื่องราวในซีรีส์ จบลงด้วยเหตุบางอย่างที่ทำให้วิลเลต้องตัดสินใจ แต่นั่นก็ทำให้เขารู้ใจตัวเองเช่นกันว่า เขารักไซม่อนไปแล้ว


        ในซีซั่นถัดไป ความขัดแย้งที่ถูกสร้างเอาไว้ในซีซั่นแรกจะเป็นอย่างไรต่อนั้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากทีเดียว ข้อดีที่ทำได้สมจริงของ Young Royals นอกจากเรื่องประเด็นเกย์ระหว่างชนชั้นแล้ว คงต้องยกให้การแคสต์ติ้งนักแสดงที่ดูเหมือนเด็กมัธยมอีกด้วย เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาจะสมวัยกันทุกคนแล้ว ทุกคนยังมีสิว ซึ่งการแต่งหน้าในซีรีส์ก็ช่วยทำให้ทุกคนมันดูสมจริงมากขึ้น ดูเป็นวัยรุ่นที่ไม่ประดิษฐ์ (ถ้าขืนเป็นซีรีส์ไทยนะ ทุกคนจะหน้าเนียนหมดจ้า) อีกเรื่องที่น่าชื่นชมคงต้องยกให้ซาวด์แทร็กของซีรีส์ที่มีคอลเลคชันเพลงป๊อป / ฮิปฮอป / อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในยุโรปเป็นหลัก ซาวด์แทร็กร่วมสมัยแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบรรยากาศของโรงเรียนประจำและการสำรวจอุดมคติดั้งเดิมที่ว่าด้วยชนชั้นทางสังคมและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ และนั่นเป็นสิ่งที่ช่วยขยายความเข้มงวดของสถาบันที่มีอายุหลายศตวรรษและวิธีที่เยาวชนในปัจจุบันต่อสู้ เคลื่อนไหวต่อต้าน หรือกำหนดกฎเกณฑ์ใหม่ที่ตั้งขึ้นโดยพวกเขามากขึ้น


#YoungRoyals
#netflix

]]>
LG Stand By Me ทีวีสายมินิมอล คิ้วท์กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว https://marshomme.com/scoop/532060/ Mon, 09 Aug 2021 05:49:00 +0000
        เงินในกระเป๋าสั่นเลยทีเดียว เมื่อทางค่าย LG ออกทีวีรุ่นใหม่มากรุบๆ ชื่อรุ่นว่า “LG Stand By Me” ตอบโจทย์สายมินิมอลสุด ตรงที่สามารถเคลื่อนย้ายไปไว้ส่วนต่างๆของบ้านได้ไม่ว่าจะเป็นในครัว ห้องนั่งเลย ห้องนอน เพราะตัวนี้มีล้อเลื่อนได้


        สาวก TikTok น่าจะชอบตรงที่จอสามารถปรับหมุนเป็นแนวตั้งได้เลยทันทีดีงามมาก แถมหน้าจอขนาด 27 นิ้ว  เป็นแบบทัชสกรีน หากลากเครื่องนี้ไปอยู่ในครัวขณะทำอาหาร จะเปิดดูวิธีการทำอาหารจากยูทูปก็ย่อมได้  แต่เด็ดสุดๆ ตรงที่ทีวีเครื่องนี้ สามารถใช้แบบไร้สายได้เลยไม่ต้องยุ่งยากเสียบปลั๊กต่างๆ นาๆ เพราะมีแบตเตอรี่ในตัวเสร็จสรรพ ที่ใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมง


บอกสรรพคุณมาขนาดนี้ ราคาน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ตัดสินใจว่าจะฟาดซื้อดีไหม  อดใจไว้ก่อนเพราะทางเกาหลียังไม่บอกราคาแบบเป็นทางการออกมา ที่เกาหลีจะเปิดตัวทีวีรุ่น “LG Stand By Me” เร็วๆ นี้

ระหว่างนี้เข้าไปชมพลางๆ ได้ที่เวปนี้
https://www.lge.co.kr/tvs/27art10akpl?fbclid=IwAR3-g5oeez6uuOBo9d3OrU3V0fk5SNAepecV6VRdCGQw-TdwL4dUo4j99Z8

]]>
Smart Man กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ บนปก E Photobook Mars Homme เล่มล่าสุด https://marshomme.com/fashion/532051/ Thu, 22 Jul 2021 03:26:00 +0000

        ลุ้นอยู่ตลอดกับละครเรื่อง “แค้นรักสลับชะตา” โดยเฉพาะฝีมือในการแสดงของหนุ่ม กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ ที่เล่นได้สมบทบาทสุดๆแถมตีบทแตกกระจุย  แต่ที่ละเลยไม่ได้คือความสูง ยาว เข่าดีที่พ่วงมาพร้อมกับความหล่อ เท่ ที่หลายๆ คนโฟกัสมาอันดับต้นๆ


        E Photobook เล่มล่าสุดของ Mars Homme เราได้กระทิง-ขุนณรงค์ มาขึ้นปก หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ก่อนหน้านี้กระทิงมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอย่างมากในฐานนะนายแบบมืออาชีพ เดินแทบจะทุกรันเวย์ในประเทศแล้ว ในฐานนะนายแบบกระทิง ก็ทำได้ดีเกินร้อย


ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ที่ 

MEB :
         https://www.mebmarket.com/ebook-161936-Mars-Homme-Magazine-Online-Krating

Ookbee :

         https://www.ookbee.com/shop/magazine/MARHOMMEMAG/b61c3bee-aa0b-4ed7-8642-fa8ade715ad5/mars-homme-magazine-online-krating

]]>
รวมซีรีส์ “แนวโบรแมนซ์” ที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างมิตรภาพของผู้ชายแท้ๆ https://marshomme.com/scoop/531900/ Tue, 22 Jun 2021 03:47:00 +0000
        ไม่จริงเอาสะเลยที่บอกกันว่า ซีรีส์เกาหลีมักจะมีแต่เรื่องราวโรแมนติกชวนซึ้งออกแนวฝันๆ ระหว่างพระเอกกับนางเอกเท่านั้น แต่ซีรีส์เกายังมีอีกหลายบริบทให้ได้เห็นกันอีกมาก อย่างเช่น ซีรีส์ที่ Mars Homme กำลังจะแนะนำเป็นซีรีส์ที่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างมิตรภาพชายหนุ่มหรือ “โบรแมนซ์” (Bromance) มิตรภาพที่มาในหลากหลายรูปแบบและซับซ้อน แต่ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ประทับตราตรึงในแบบฉบับของผู้ชาย ทั้งหมดหาดูได้จาก Netflix


Navillera
        เริ่มเรื่องแรกบอกเลยว่าต้องดู และควรดู เพราะเรื่อง “Navillera” หรือในชื่อไทยว่า ดั่งผีเสื้อร่ายระบำ เป็นเรื่องที่กระชากต่อมน้ำตาอย่างมาก เรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละครชาย
        เมื่อ อีแชรก (ซงคัง) ต้องกลายมาเป็นผู้ฝึกสอนบัลเลต์ให้กับ ซิมด็อกชอล (พัคอินฮวาน) ชายแก่ที่ไล่ตามความฝันที่เขาปรารถนามาตลอดชีวิต ซึ่งแรกๆคนสอนก็ไม่เต็มใจนัก ออกจะดูหงุดหงิดใส่สะด้วยซ้ำ แต่ด้วยความทุ่มเทด็อกชอลก็เอาชนะใจแชรกได้ เขาเป็นนักเรียนสูงวัยที่คอยแสดงความชื่นชมและให้กำลังใจครูผู้ไม่มั่นใจในตัวเองคนนี้อยู่เสมอ จนทั้งสองได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของกันและกัน


Move to Heaven
        ฮิตสะขนาดนี้ก็คงต้องเปิดดูกันบ้างแล้วล่ะ สำหรับเรื่อง Move to Heaven มิตรภาพอันแสนพิเศษระหว่าง ฮันกือรู (ทังจุนซัง) เด็กหนุ่มผู้มีอาการแอสเพอร์เกอร์ ที่ทำอชีพนักรับทำความสะอาดและจัดการข้าวของเครื่องใช้ของผู้เสียชีวิต ทำงานร่วมกับกับคุณอาของเขาที่เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ โจซังกู (อีเจฮุน) ซึ่งต้องกลายมาเป็นผู้ปกครองของฮันกือรูแบบไม่เต็มใจนัก
        เริ่มแรกทั้งสองมีนิสัยต่างกันสุดขั้ว แต่ทั้งคู่ก็ได้เผชิญเรื่องราวที่ทำให้เริ่มเข้าใจกันทีละน้อย โดยระหว่างที่ได้สอนให้อาของเขาเข้าใจขั้นตอนของการทำความสะอาดและจัดการข้าวของเครื่องใช้ของผู้เสียชีวิตนั้น กือรูยังได้สอนให้ซังกูเรียนรู้วิธีที่จะรับรู้และสามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่ผู้ตายไม่มีโอกาสได้บอกเล่าไปด้วย ทั้งคู่ต่างค่อยๆเรียนรู้กันและกัน และเริมสนิทใจกันมากขึ้น

Start-Up
        ซีรีส์ที่สนุกและได้แง่คิดดีทีเดียว Start-Up เล่าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มหัดทำธุรกิจและความสัมพันธ์อันมีเสน่ห์ของแก๊งหนุ่มๆ นักศึกษามหาวิทยาลัยผู้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทซัมซานเทค ซึ่งชื่อบริษัทของพวกเขามาจากการที่ทั้งสามมีคำว่า “ซาน” อยู่ในชื่อเหมือนกัน จึงกลายเป็น “ซัมซาน” หรือ “สามซาน” ซึ่งแปลว่าภูเขาสามลูกนั่นเอง


        ทั้งสามต้องผ่านบททดสอบมากมาย รวมถึงการทะเลาะกันหลายต่อหลายครั้ง แต่มิตรภาพระหว่างพวกเขายังคงแข็งแกร่งไม่เปลี่ยนแปลง มีบ้างที่ได้เห็นเด็กหนุ่มเหล่านั้นหลั่งน้ำตา แต่ทว่ายิ่งทำให้มิตรภาพของพวกเขาแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

The King: Eternal Monarch
        สนุกและลุ้นจนนาทีสุดท้าย ในเรื่อง “The King: Eternal Monarch” หรือเรื่อวจอมราชันบัลลังก์อมตะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มในแต่ละมิติคู่ขนาน


        เริ่มจากความสัมพันธ์ของจักรพรรดิอีกน (อีมินโฮ) และ โจยอง (อูโดฮวาน) หัวหน้าองครักษ์แห่งอาณาจักรโครยอ ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก และตัวโจยองเองนั้นจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังมีอีกความสัมพันธ์ระหว่างสองหนุ่ม เมื่ออีกนได้พบกับ โจอึนซอบ ตัวตนของโจยองในอีกมิติคู่ขนานที่อยู่ในยุคสาธารณรัฐเกาหลี จากนั้นเมื่อสองตัวตนจากคนละมิติมาพบกัน ความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มๆ ก็ยิ่งเติบโตงดงามขึ้นไปเรื่อยๆ


A Korean Odyssey
        เรื่องนี้ก็ไม่เป็นรองใคร เป็นการตีความเรื่องราวของไซอิ๋วแบบใหม่ A Korean Odyssey หรือชื่อภาษาไทยว่า ตำนานไซอิ๋วฉบับเกาหลี เนื้อเรื่องสนุกตั้งแต่ต้นจนจบ
        เรื่องราวของซนโอกง หรือซุนหงอคง (อีซึงกิ) และปีศาจวัว หรืออูฮวีซอล (ชาซึงวอน) ซึ่งมักจะเป็นศัตรูคู่ขัดแย้งกันอยู่บ่อยครั้งในอีกโลกหนึ่ง ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นในเชิงทั้งรักทั้งเกลียด และมีเหตุให้ต้องมาเป็นเพื่อนร่วมบ้านที่น่ารำคาญใจอีกสะด้วย และแม้ว่าต่างฝ่ายต่างก็พูดจาเสียดสีและการยั่วโมโหอีกฝ่ายไปมา แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ต่างเปิดเผยความห่วงใยที่มีให้กันออกมาจนได้


Guardian: The Lonely and Great God
        ฟินตั้งแต่เห็นรายชื่อนักแสดงกันแล้ว สำหรับเรื่อง “ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ” หรือ Guardian: The Lonely and Great God


        ถ่ายทอดมิตรภาพชายหนุ่มระหว่าง คิมชิน (กงยู) ก็อบลินผู้พิทักษ์ดวงวิญญาณ และยมทูตไร้ชื่อ (อีดงอุค) ผู้ทำหน้าที่คอยส่งดวงวิญญาณไปยังปรโลก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นด้วยการทะเลาะในเรื่องหยุมหยิม ซึ่งกลายมาเป็นโมเมนต์ตลกๆ ถึงตอนแรกจะไม่ค่อยลงลอยกันเท่าไหร่ แต่ทั้งสองก็กลายมาเป็นเพื่อนร่วมบ้านหลังเดียวกันและเริ่มขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายทีละน้อย ก่อนทั้งคู่จะกลายมาเป็นทีมเวิร์คที่น่าเกรงขาม เมื่อต้องมาร่วมกันคุ้มครองนางเอกของเรื่อง อึนทัก (คิมโกอึน)

เรียบเรียงข้อมูลจาก Netflix

]]>
13 สีสุดเด็ดเฉพาะประเทศไทยจากการ Collaboration ระหว่าง Pantone และ CC DOUBLE O https://marshomme.com/fashion/531889/ Mon, 14 Jun 2021 11:34:00 +0000
        การ Collaboration กันในครั้งนี้ระหว่าง CC DOUBLE O และ สำนักเทรนด์สีระดับโลกอย่าง Pantone ด้วยการเลือกสีสันสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะประเทศเท่านั้นให้กับ CC DOUBLE O โดยเฉพาะ ทั้งหมด 13 สีด้วยกัน  ซึ่งสีสันที่ได้รับการคัดเลือกมาพร้อมกับแนวคิดเกี่ยวกับเมืองไทยที่สะท้อนผ่านมุมมองของ Pantone

        เป็นการเปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษประจำปี 2021 ได้น่าสนใจทีเดียวสำหรับแบรนด์เสื้อจาก CC DOUBLE O ภายใต้แนวคิด “Joy of Color” เป็นการจับมือกันเป็นครั้งแรกร่วมกับสุดยอดสำนักเทรนด์สีอย่าง Pantone Color Institute ที่เป็นทั้ง Innovator และ Trend Setter เจ้าสำคัญที่มีอิทธิพลต่อวงการออกแบบวงการงานดีไซน์ ส่วนสีที่เรานำมาแนะนำเป็นเพียงแค่หนึ่งใน 13 สี เท่านั้น เห็นโทนสีแล้วเกิดกิเลสอยากได้ทุกสี


Classic Blue จากรถตุ๊กตุ๊ก


Foliage Green การหยิบเอาสีใบตองห่อห่อขนมย่อมสะท้อนความเป็นไทยได้ดี


        Golden Brown จาก วัดเก่าในจังหวัดอยุธยา ความรุ่งเรืองในอดีตที่หลงเหลือในปัจจุบัน สีของอิฐที่ก่อร่างสร้างเมืองและวัดยังคงโดดเด่นเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมให้ผู้คนได้มาสัมผัส


        Nightshadow Blue จากบรรยากาศยามค่ำคืนของถนนข้าวสาร Walking Street ที่เป็นตำนานที่มีชีวิตชีวาที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของกรุงเทพ เมืองแห่งรอยยิ้ม และความสนุกสนานที่พร้อมต้อนรับผู้คนอยู่เสมอ


        นอกจากนี้ ยังมีสีขาวสว่างอย่าง Bright White สีกรมท่า Dark Navy สีดำ Meteorite และที่พิเศษมากไปกว่านั้นคือการนำสีประจำปีหรือ Color of the Year ที่กำหนดโดย Pantone ประจำปี 2021 อย่างสีเทา Ultimate Gray และสีเหลือง Illuminating มาเป็นส่วนหนึ่งกับคอลเลคชั่น

]]>
กำจัด “ขน” ไม่พึงประสงค์ของผู้ชาย https://marshomme.com/lifestyle/531835/ Mon, 26 Apr 2021 05:38:00 +0000

เรื่องของขนและการกำจัดขนสำหรับผู้ชาย ยังเป็นความลับที่ผู้ชายยังไม่อยากพูดถึง ยกเว้นแต่เรื่องหนวดและเครา ที่หนุ่มๆ มักไม่ค่อยเปิดเผย ว่ามีขนตรงนั้นตรงนี้ที่ไม่พึงปรารถนา การกำจัดขน ยังฟังดูเหมือนการแต่งหน้าหรืออะไรที่เป็นผู้หญิงจนเกินไป แต่ความจริงแล้วการกำจัดขนเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหนุ่มๆ


ขนตรงไหนบ้างที่หนุ่มนิยมกำจัดที่ดูจะยอดนิยมที่สุด สำหรับหนุ่มที่ถือหลักการทั้งห้าของโหงวเฮ้งคือการกำจัดขนระหว่างคิ้วทั้งสองข้างไม่ให้คิ้วต่อกันเป็นเส้นเดียว การกำจัดขนที่ใบหู การกำจัดขนที่ไหล่และหลัง การกำจัดขนหน้าอก หรือสำหรับนักกีฬาที่ต้องการความราบลื่นทั่วทั้งตัว เช่น นักเพาะกาย นักว่ายน้ำ และนักขี่จักรยาน อาจกำกัดขนทั่วทั้งเรือนร่าง และแน่นอนว่า หนุ่มบางคนก็ต้องการกำจัดขนที่จุดลับด้วยเช่นกัน

ขั้นตอนและวิธีกำจัดขนมีตั้งแต่ระดับเบื้องต้นที่ทำได้เอง แต่ไม่คงผลถาวรนักไปจนถึงบริการกำจัดขนถาวรด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ล้ำสมัย


การโกน

หนุ่มๆ เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นก็เรียนรู้การโกนขน (หนวด) เป็นวิธีที่สะดวกกับอุปกรณ์ที่มีจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด ทำได้แทบทุกสัดส่วนแต่ต้องอาศัยความระมัดระวังเสียหน่อยให้ผลไม่ถาวรหรือเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น


การแว๊กซ์

อุปกรณ์หาซื้อใช้ได้เอง แต่วิธีการยังคงต้องอาศัยความชำนาญและมีความวุ่นวายประมาณนึง ผลที่ได้ทันทีหลังการแว็กซ์เป็นความราบเรียบที่หนุ่มๆต้องประทับใจ และให้ผลไปได้อีกสี่ถึงหกสัปดาห์กับขนอ่อนที่ขึ้นมาน่าประทับใจสามารถทำได้ทั้งมือแขนขาหน้าอกรักแร้และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย


เลเซอร์กำจัดขน

วิธีนี้เป็นวิธีการกำจัดขน แม้บางที่จะบอกว่าขนจะไม่ขึ้นใหม่อย่างถาวร แต่ก็ไม่อยากให้ปักใจเชื่อมากนัก เพราะอาจจะเกิดขนใหม่ขึ้นได้อีกแต่อาจจะอยู่ในปริมาณที่น้อย แต่ข้อเสียคือ ราคาแพง


กำจัดขนถาวร

วิธีการกำจัดขนถาวรที่เทคโนโลยีล้ำหน้ามีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เป็นต้นว่า การกำจัดขนที่ใบหู การกำจัดขนที่ไหล่และหลังการกำจัดขนหน้าอก หรือสำหรับนักกีฬาที่ต้องการกำจัดขนทั่วทั้งเรือน

อย่างไรก็ตามที่เรียกกันว่าการกำจัดขนถาวรนั้นไม่ได้แปลว่าถาวรตลอดชีวิต แต่เป็นการถาวรที่ยาวนานกว่าวิธีอื่นทั่วไป

www.myethosspa.com › laser-hair-removal-for-men-face
mybeardgang.com › how-to-treat-beard-lice
www.thetrendspotter.net › Grooming
www.123rf.com › stock-photo › hair_removal_man
www.coolaromaspa.com › considering-waxing-pro-guy…

]]>
Sea Sand Sun ชีวิตติดทะเลของ “กอล์ฟ-ชูเกียรติ คำมูล” https://marshomme.com/lifestyle/531801/ Mon, 05 Apr 2021 11:33:00 +0000 ต้อนรับซัมเมอร์อย่างเป็นทางการ กับไลฟ์สไตล์สุดชิคต้อนรับฤดูกาล Mars Homme พาไปทำความรู้จักกับ นายธนาคารหนุ่ม อย่าง “กอล์ฟ-ชูเกียรติ คำมูล” เรียกได้ว่าเป็นสายทะเลของจริงถึงแม้จะไม่ได้เป็นลูกทะเลโดยกำเนิด เจ้าตัวถึงขนาดออกปากเลยว่า “การไปเที่ยวทะเลคืองานอดิเรก ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องจัด” จัดเอาตัวเองไปติดน้ำเค็มทุกที นอกจากคลื่นใสๆ ลมสบาย แดดสะใจของทะเลไทยที่ทำให้ กอล์ฟ ติดใจแล้ว ยังมีกิจกรรมเท่ๆ ที่เจ้าตัวก็ไม่พลาดที่จะเล่น


Sun Tan

เริ่มที่ กิจกรรมที่ไม่จำเป็นต้องเสียเงินมาก เพียงมีแค่ ซันแทนโลชั่นที่ต้องการตามระดับความเข้ม ของสีผิวที่ปรารถนา เริ่ม ตั้งแต่ spf 2 ไปจนถึง 15-30 แดดบ้านเราเริ่มอาบซักช่วงบ่ายสองบ่ายสามก็น่าจะเพียงพอ แค่นี้ก็มีผิวเข้ม ๆ แทนๆอมน้ำผึ้ง แต่หากอาบแดดจัดเกินไปจะทำให้ผิวเกรียมเกินไปจนไหม้แดง ลอกเอาได้ และที่สำคัญอย่าลืม ทาอาฟเตอร์ซัน หรือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น


หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ที่นี่จะมีกิจกรรมเอาใจนักท่องเที่ยวเยอะหน่อยเพราะมีชื่อเสียงเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ที่หนุ่มกอล์ฟ แนะนำ คือ “เจ็ตสกี” แค่เพียงบิดก็โต้คลื่น โต้ลม ชมวิวได้แล้ว แพงขึ้นมาอีกนิด หวาดเสียวหน่อย แต่สนุกสุดๆ และอันนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดก็คือ “พาราเซล” หนุ่มกอล์ฟกระซิปว่า “ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด!”


StandUp Paddle Board

ที่ เกาะช้าง หนุ่มเหนือผู้หลงใหลน้ำทะเลคนนี้ แนะนำให้ไปชิลล์ที่โรงแรม nature Beach resort koh Chang มีแพดเดิล บอร์ด หน้าตาคล้ายๆ เซิร์ฟบอร์ด แต่บ้านเราคลื่นทะเลไม่ใหญ่และแรงมากพอจะเล่นได้ ชื่อเต็มๆ ก็คือ StandUp Paddle Board หรือ SUP เป็นกีฬาที่ถูกพัฒนาจากเซิรฟ์ ข้อดี คือไม่ต้องใช้คลื่นเล่น น้ำนิ่ง ทะเล คลอง เขื่อน เล่นได้หมด ง่ายมากๆเหมือนพายเรือ ใครก็เล่นได้โดยอุปกรณ์ ที่เพิ่มมาคือไม้พาย ช่วยเคลื่อนที่ได้ตามใจ ไม่ต้องง้อคลื่น วิธีเล่นคือ การยืนตัวตรง แล้วพยายามทรงตัวบนบอร์ด


“เวลาเล่นแพดเดิล หรือ Sup บอร์ดกับทะเลนั้นคลื่นแต่ละลูก สาดมาไม่เท่ากัน ก็จะได้ใช้กล้ามเนื้อทั้งแขน และ ขาแถมด้วยหน้าท้องในการทรงตัว ซึ่งท้าทายกว่าน้ำนิ่งๆ มาก เท่ หุ่นดีชัวร์”

นอกจากนี้ ก็คงจะเป็นกิจกรรมที่คุ้นเคย แต่ทุกครั้งก็จะได้ดื่มด่ำกับความสวยงามใต้ท้องทะเลแตกต่างกันไปก็คือ Snorkeling นี่ก็ไม่ต้องเสียตังค์ค่าใช้จ่ายเลย  ถ้ามีแว่นตาสำหรับดำน้ำตื้น ดูปะการังอยู่แล้วแบบหนุ่มกอล์ฟ เขาแนะนำว่าไปที่หาดเทียน เกาะแสมสาร สัตหีบ นี่เอง มีนีโมน่ารักๆ ให้ได้ชมกันด้วย  ซึ่งหนุ่มสายทะเล รักธรรมชาติตัวจริง ก็ไม่น่าพลาดกิจกรรมสุดคลาสสิกนี้


ร้อนไหนๆ ก็ประทับใจไม่ลืมเลือนแน่นอน งานนี้หนุ่มกอล์ฟยังฝากติดตาม IG thegolfgab ไว้ด้วย รับรองว่าจะมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ฟอลโลเวอร์ได้กดไลค์กันอีกแน่นอน

Source : IG thegolfgab

]]>
You are what you eat! กินอยู่อย่างสุขภาพดี https://marshomme.com/lifestyle/531708/ Wed, 24 Feb 2021 09:50:00 +0000

หลักในการรับประทานเพื่อให้ได้มาซึ่งผิวสวย คือการเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำหรับผิว และสารที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการชะลอการทำลายเซลล์ผิว อาหารเหล่านี้ยังช่วยควบคุมแคลอรีได้อีกด้วย และยังมีปริมาณแคลอรีที่ไม่สูง


กินอยู่อย่างสุขภาพดี You are what you eat! เริ่มต้นได้จาก

ควรเริ่มต้นด้วยการดื่มน้ำ หากดื่มน้ำน้อยกว่า 3 ลิตรต่อวัน จะมีความเสี่ยงที่จะใช้ชีวิตประจำวันในสถานภาพขาดน้ำโดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้สึกกระหายน้ำเพียงเล็กน้อยให้รีบดื่มน้ำทันทีเพราะนั่นคือสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าร่างกายขาดน้ำแล้ว

เลือกทานอาหารจำพวกโปรตีน คนส่วนใหญ่รับโปรตีนเข้าสู่ร่างกายไม่เพียงพอทั้งที่โปรตีนเป็นส่วนสำคัญต่อร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเส้นผม ช่วยให้ผิวเปล่งประกายและมีความยืดหยุ่น โปรตีนที่มีคุณภาพและมีไขมันต่ำเป็นสิ่งจำเป็น ได้จากเนื้อไก่ ปลา และหอย หรือที่เรียกว่า White Meat และโปรตีนที่ได้จากเนื้อจำพวก Red Meat ไขมัน ควรรับประทานโปรตีนที่ได้จากเนื้อที่มีไขมันน้อยหรือ White Meat นี้ให้ได้ในปริมาณ 100 กรัมต่อวัน


•รับประทานผักและผลไม้ที่มีสีสด ผลไม้จำพวกสับปะรด สตรอเบอรี่ หรือผักจำพวกแครอต บร็อกโคลี่ และอะไรที่มีสีเขียวล้วนมีประโยชน์ในการช่วยให้ร่างกายและเซลล์ผิวสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ

•ลดคาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารในหมู่ที่ให้พลังงาน คาร์โบไฮเดรตที่เกินความต้องการของร่างกายจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในเลือด ทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินออกมาต่อต้านมากขึ้น ที่ร้ายคือเจ้าอินซูลินนี้เป็นตัวสำคัญในการทำลายเซลล์ผิว เมื่อจะรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้เลือกชนิดที่ย่อยสลายและซึมยาก จำพวกข้าวแดง ถั่ว ผัก และผลไม้ หลีกเลี่ยงขนมปัง ข้าวโพด ข้าวขาว เส้นที่เป็นสีขาว กล้วยหอม มันฝรั่ง องุ่น และของหวาน


•น้ำตาล มีการศึกษาว่าน้ำตาลก่อให้เกิดการกีดขวางในเนื้อเยื่อคอลลาเจนของผิว ทำให้ผิวสูญเสียความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และเกิดเป็นจุดด่างดำ จึงควรหลีกเลี่ยงการใส่น้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งอาหารที่มีรสหวานจัด ที่สำคัญคือเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์ นอกจากทำให้ผิวสูญเสียความสมดุลของน้ำแล้วยังมีปริมาณน้ำตาลที่สูงมากอีกด้วย

•เลือกทานไขมันที่ถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวจากเนื้อและนมสัตว์ เช่น เนื้อจำพวก Red Meat ทั้งหลาย เนย เนยแข็ง และสารพัดครีมจากสัตว์ ไขมันที่ดีได้แก่ไขมันไม่อิ่มตัวจากน้ำมันมะกอก ปลา (โอเมก้า 3) และพืชบางชนิด การสมดุลไขมันที่ดีจะช่วยให้ผิวไม่แห้ง ดูเปล่งปลั่ง และอิ่มตัวเสมอ

Credit
https://rjwphoto.typepad.com/recent_work/2013/02/persimmon-.html
https://www.andreainurria.com/
https://www.fusillolab.com/journal/2016/11/15/new-years-eve-ikea
https://www.1924.us/tattoos/tattoo

]]>
Sport Addicted มิกกี้-นนท์ อัลภาชน์ https://marshomme.com/lifestyle/531700/ Fri, 19 Feb 2021 09:33:00 +0000

หลายคนรู้จัก มิกกี้-นนท์ อัลภาชน์ ในฐานะสามีของเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณและในฐานะพ่อของน้องโนล่า แต่เส้นทางด้านกีฬาของมิกกี้ ยังคงเส้นคงวานับตั้งแต่เขาหอบปริญญา ในสาขา Exercise Sport Science (Fitness & Nutrition), Oregon State University จากสหรัฐอเมริกากลับมาเมืองไทย

ย้อนกลับไป ช่วงนั้นโอกาสหลายอย่างวิ่งเข้าหามิกกี้มากมายโดยเฉพาะความสนุกใหม่ๆ ในวงการบันเทิง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ความฝันที่แท้จริงของ มิกกี้-นนท์ อัลภาชน์ ก็ยังยืนหยัดที่ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับกีฬา 

My Way

พื้นฐานผมเป็นคนชอบกีฬาตอนแรกยังไม่ได้คิดหรอกว่าจะเรียนด้านกีฬา จนได้ไปเรียนไฮสคูลที่อเมริกาและมีโอกาสเล่นกีฬามากขึ้นก็เริ่มชอบตอนอายุ 12-13 เล่นฟุตบอลจริงจังจนช่วงหนึ่งคิดว่าอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ แต่คุณพ่อแนะนำว่าการเป็นนักกีฬาอาชีพอาจจะไม่ยั่งยืน เพราะเมื่อเล่นไปถึงจุดหนึ่งข้อจำกัดของร่างกายจะทำให้เราต้องหยุดเล่น อีกอย่างไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเป็นนักกีฬาอาชีพที่ประสบความสำเร็จ

พอไปไม่ถึงฝันก็เลยคิดว่าขอทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราชอบมากที่สุดนั่นคือกีฬาผมเลยเลือกเรียนปริญญาตรีด้าน Exercise Sport Science พอจบก็กลับมาเรียนปริญญาโทด้าน Strength and Conditioning ที่ Edith Cowan University เป็นโปรแกรมออนไลน์ใช้เวลาเรียนปีครึ่ง คิดเอาไว้ว่าหลังจากจบปริญญาโทอยากมีโอกาสทำงานร่วมกับนักกีฬาประเภทไหนก็ได้ อีกอย่างก็หวังเอาไว้ว่าอยากมี Training Facilities เล็ก ๆ ของตัวเอง คอยรับคนเข้ามาเทรนเพิ่มศักยภาพ”


Sport Addicted 

มิกกี้ มีทีมฟุตบอลในดวงใจคือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เมื่อก่อนจะสะสมเสื้อฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมีของแมนฯ ยูเยอะ แต่หลังจากกลับมาจากอเมริกา บางอย่างก็ไม่ได้เอากลับมาด้วย เพราะว่าของเราเยอะมาก ช่วงนี้เลยไม่ได้มีของสะสมจริงจังมากมาย มีแต่ของที่ใช้อยู่จริงๆ แต่ก็ไม่ได้เลือกหลากหลายยี่ห้อมาก อย่างชุดสำหรับออกกำลังกายและรองเท้าผมจะชอบไนกี้ เราใช้มาแต่ไหนแต่ไรก็ชินกับไซส์และการออกแบบ

รองเท้าบอลคู่ที่ใช้อยู่นี้ใส่เล่นมาตั้งแต่อยู่อเมริกา เรามีประสบการณ์และความทรงจำหลายอย่างร่วมกัน เล่นฟุตบอลไม่นานก็มีโอกาสเป็นนักกีฬาชุดใหญ่ของมัธยม ได้เป็นกัปตัน (Grants Pass High School, Oregon, USA) ได้เล่นทีมสโมสรของมหาวิทยาลัย (Oregon State University) ทั้งหมดคือประสบการณ์ร่วมกันกับรองเท้าคู่นี้

Simply Guy 

ผมเป็นคนง่ายๆ ไม่ติดแบรนด์เนม เลือกใช้บ้างบางอย่าง ส่วนตัวผมไม่ติดลักชัวรี่แบรนด์ ไม่ใช่แนวนั้น เสื้อยืดธรรมดาก็ใส่ได้ ไม่มียี่ห้อเราก็ใส่ เน้นแต่งตัวดูดีและเข้ากับบุคลิกของเรามากกว่า

คนที่ไม่รู้จักจะมองว่าผมหยิ่ง เพราะเป็นคนเงียบๆ แต่ถ้าได้รู้จักกันมากขึ้นแล้วจะรู้ว่าผมเป็นคนกันเอง ขี้เล่น จริงๆ เป็นคนเฟรนด์ลี่ และเป็นคนชอบออกกำลังกายมาก เวลาพักผ่อนของผมคือการได้ไปยิม เวลาอยู่ที่ยิมเราจะไม่คิดเรื่องอะไรอื่น เราปล่อยวาง

Credit : IG mickey.a.np

]]>
The Lovely Boy “เก้า-นพเก้า ชายหนุ่มที่เกิดวันที่ 9 เดือน 9 เวลา 9 โมง” https://marshomme.com/aboy/531692/ Thu, 18 Feb 2021 09:15:00 +0000

แม้ตลาดซีรีส์วายในปีนี้จะบูมสุดขีดเพราะมีลิสต์รอผลิตและออนแอร์อยู่เกือบ40เรื่อง นี่ยังไม่นับซีรีส์วายเกาหลี ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ที่เข้ามาตีตลาดไทยบ้างแล้ว แต่ฟังธงไว้เนิ่นๆ ว่าหนึ่งในพระเอกที่จะดังมากในปีนี้จะมีชื่อ “เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ” พระเอกซีรีส์วายเรื่องนับสิบจะจูบที่กำลังออนแอร์เร็วๆ นี้ทางช่อง3HD เก้า นพเก้า ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการเสียทีเดียวเพราะก่อนหน้านี้เก้าเคยแสดงซีรีส์วายด้ายแดงมาแล้ว เพียงแต่ด้วยบทคู่รองที่ได้รับ ทำให้ออร่ายังไม่เปล่งประกายมากนักแต่แฟนคลับก็หนาแน่น กับก้าวใหม่ในฐานะนักแสดงนำ มีสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้าทายอยู่ไม่น้อย


Q : ก่อนจะถามเข้าเรื่อง อยากรู้ว่าทำไมถึงชื่อ “เก้า”
A : ผมเกิดวัน 9 เดือน 9 เวลา 9 โมง ครับผม และก็เกิดมาอยู่ห้องคลอดเลขที่ 9 แม่กับป้าก็เลยตั้งชื่อว่าให้ “เก้า” นพเก้า ครับ

Q : ถ่ายซีรีส์จบหรือยัง นับสิบจะจูบ เป็นอย่างไรบ้าง เล่าให้ฟังหน่อย
A : จบแล้วครับ ก็จะได้ดูกันเร็ว ๆ นี้ครับ ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ เรื่องนี้เป็นซีรีส์วายเรื่องที่ 2 ครับ แต่แสดงนำเป็นเรื่องแรกครับ นับสิบนี่ถ้าตามคาแรกเตอร์ จะเป็นคนเงียบ ๆ คล้าย ๆ ผม พูดน้อย แต่เวลาเขาพูดหรือเวลาเขาคิดอะไรนี่เขาจะเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ มันจะแสดงออกในคาแรกเตอร์ของเขา ในการกระทำของเขา เขาจะเป็นคนมีแผนการ มีกระบวนการทางความคิดที่เวลาเขาจะเข้าหาหรือหลอกใช้ใคร แต่ตรงนี้จะแตกต่างจากตัวผมนิดหนึ่งตรงที่ว่า ผมเป็นคนพูดน้อยหรือผมเป็นคนพูดจาตรง ๆ แต่ไม่ได้มีแฝงในคำพูดเหมือนตัวนับสิบครับ ผมเป็นคนซื่อ ๆ


Q : จากที่เล่นเป็นบทรองในด้ายแดงแล้วมาแสดงเป็นคู่นำนี่รู้สึกอย่างไรบ้าง
A : ตื่นเต้นและกดดันมากครับ พอเป็นนักแสดงนำเรื่องแรกนี่ทำให้รู้สึกถึงแรงกดดันเลยว่า เราจะทำออกมาดีหรือเปล่า เราจะทำตามที่แฟนนิยายเขาคาดหวังไว้ได้หรือไม่ แต่พี่ตี๋ผู้กำกับเขาก็คอยให้คำปรึกษาผม คอยให้คำแนะนำผม เขาก็บอกให้ผมทำออกมาแบบที่ตั้งใจ แสดงความสามารถออกมา หวังว่าแฟนซีรีส์เขาก็จะมองข้ามจุดพลาด จุดด้อยของเราไป แล้วก็เห็นความพยายามของเรา มันก็จะเป็นเรื่องที่ดีครับ

Q : เคยคิดไหมว่าวันหนึ่งเราจะต้องมาแสดงนำ และพอต้องมานำในซีรีส์วายด้วย เป็นอย่างไรบ้าง
A : ผมไม่ได้คิดหรอกครับ แต่ก็มีความหวังเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราบ้างว่า สักวันหนึ่งเราจะมาเป็นนักแสดงนำหรือว่าได้โอกาสมารับบทเป็นบทนำบ้าง และพอต้องมารับบทนำจิงๆ หนักเลยครับ หมายถึงจูบหนักเลยครับ พอจากตอนแรกเป็นรองใช่ไหมครับ มันก็อาจจะมีซีนหวาน เลิฟซีนบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่พอเรามาเป็นบทนำนี่เราหนักหน่วงมากครับ

Q : แสดงว่าเลิฟซีนตรงกับในนิยาย ?
A : น่าจะครับ


Q : เก้าเข้าวงการมาได้อย่างไร
A : ผมเริ่มจากการถ่ายโฆษณาครับ แต่เดินยังไม่เคยนะครับ แรกๆ ก็ไม่ได้คิดหรอกครับว่าจะมาเล่นละคร เพราะว่าเราไม่ได้มีความสามารถทางด้านนี้จริงจัง ผมเป็นคนขี้อายมาก ไม่คิดเลยว่าจะได้มาทำตรงนี้ สมัยเด็กๆ อยากเป็นนักกีฬา แต่น้าของเรารู้จักผู้จัดการดารา เขาก็มาชักชวนเรา ซึ่งก็คือพี่วุฒิที่ชวนมาให้ทำอะไรง่าย ๆ ก่อน ไป cast โฆษณาไปถ่ายครั้งแรกก็ยังโดนผู้กำกับด่า รู้สึกท้อเหมือนกันนะ แต่พอเราได้เข้ามาทำตรงนี้แล้ว มีฐานแฟนคลับเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ แล้วเราเห็นความตั้งใจของเขา เราเห็นการผลักดัน มันก็ทำให้เราชอบและเราอยากทำให้มันดีขึ้นไปเรื่อย ๆ

Q : จากหนุ่มขี้อายพอต้องมาแสดง ปรับตัวหรือเรียนรู้อะไรต่างๆ ยากมั้ย
A : มากครับ แต่ก็ค่อย ๆ เรียนรู้ รับประสบการณ์จากคนอื่นมา ยิ่งเรื่องนับสิบนี่ผมได้พาร์ตเนอร์ที่ดีมากเป็นอัพ (ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง) เขาเป็นคนที่เก่งมาก ผมบอกเลยว่าเขาเป็นคนที่เก่ง ทั้งเรื่องเรียน เรื่องการแสดง ผมยกให้เขาเลยครับ ผมจะบอกเขาตลอด บอกกับทุกคนตลอดว่า ได้เรียนรู้อะไรจากอัพบ้าง เขาเป็นคนถ่อมตัว เราทำงานกับเขาเราก็แอบเก็บประสบการณ์ดีๆ มา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก


Q : ก่อนมาเล่นซีรีส์วาย เก้าเคยเล่นละครมาก่อนเรื่องหนึ่ง
A : ใช่ครับ เรื่องสะใภ้กาฝาก ของ TV Thunder ครับ บทที่ได้ก็จะเป็นคนทะเล้น ๆ เป็นคนพูดมาก

Q : แล้วพอมาเล่นซีรีส์วายเราปรับตัวหรือยากไหมกว่าเดิมมั้ย
A : ยาก ๆ เพราะว่ามันต้องเป็นคนไหลลื่น และยิ่งผมเป็นคนที่พูดน้อย ยิ่งเป็นคนขี้อาย ความธรรมชาติหรือเสน่ห์ ความแพรวพราวก็ไม่ค่อยออกมา มันก็ยากเหมือนกันครับ แต่ถ้าเทียบความยากระหว่างด้ายแดงกับนับสิบนะ จริง ๆ ทั้งสองเรื่องเป็นบทที่หนักทั้งคู่ แต่คือนับสิบนี่เราจะได้เล่นนำ เราจะได้เล่นเยอะกว่า ได้เล่นทั้งคอมเมดี้ ดราม่า เลิฟซีน มันรวมอยู่ในเรื่องนับสิบหมดเลยครับ ซึ่งในตอนที่เราเล่นด้ายแดงก็จะมีแค่ดราม่า

Q : ชอบอันไหนมากกว่ากัน
A : จริง ๆ ชอบทั้งคู่ เพราะว่าเป็นผลงานส่วนตัวผมเลย และผมได้รับโอกาสดีๆ เรื่องด้ายแดงนี่ได้โอกาสจากพี่นิวเลย ทำให้ผมได้มีฐานแฟนคลับที่มากเพิ่มขึ้นทุกวัน นี่ก็เพราะพี่นิวเลยครับ

Q : คิดอย่างไรที่นักแสดงชายยุคนี้ ถ้าจะแจ้งเกิดต้องแสดงซีรีส์วาย
A : คิดว่าเป็นก้าวแรกนะครับ เพราะว่าวงการของวัยรุ่นจะให้ไปเริ่มเล่นละครเลยมันก็เป็นโอกาสที่ยาก เพราะว่าเขาก็มีฐานคนดูที่มันสูงมาก พอเราได้เริ่มลองเล่นซีรีส์ก่อน มันก็ทำให้เราเรียนรู้และพัฒนาขึ้น

Q : เมื่อกี้เก้าบอกว่าเก้าเป็นเด็กขี้อาย ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาทำงานในวงการ แล้วกับเรื่องร้องเพลงล่ะ ทำไมจู่ ๆ ไปจอยกับโปรเจ็กต์ BOYFREINDS ได้
A : ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่มากกว่าครับ เราก็ทำงานมา พอเข้าวงการเราเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมานิด ๆ หน่อย ๆ ผู้ใหญ่เขาก็เห็นแววมั้งครับ เขาก็เอ็นดูเรา ก็ชวนให้เราไปลองร้องเพลงไหม อยากเป็นศิลปินไหม เราก็ได้มีโอกาส ต้องขอบคุณทางผู้ใหญ่มากกว่า จริง ๆ ผมไม่เก่งด้านนี้เลย

Q : แล้วพอต้องไปร้องเพลงแล้วเรารู้สึกอย่างไร เราร้องได้ไหม หรือว่าเอ๊ะเราค้นพบอะไรบางอย่างในตัวเรา
A : ค้นพบเหมือนกันครับ ค้นพบว่าเออเราไม่ได้ร้องเพี้ยนมาก (หัวเราะ) จากเดิมที่ว่าเราคิดว่าเราร้องเพี้ยนเหมือนกันนะ แต่เราก็ไม่ได้ร้องเพี้ยนมาก และเราสามารถทำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จากการเริ่มทำงานทางด้านเป็นศิลปิน ก็ทำให้เราพัฒนาขึ้น แล้วเวลาทุกครั้งที่เราได้รับโอกาสขึ้นเวทีหรือขึ้นคอนเสิร์ตนี่ ก็ทำให้เราเก่งขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็ตื่นเต้นมาก และมันก็จริง ๆ ผมจะมีปัญหาทางด้านก่อนขึ้นเวทีมาก จะเกิดอาการเหมือนขาสั่นครับ


Q : พอมีโอกาสได้จอยโปรเจ็กต์ BOYFREINDS แล้วมีอะไรสะกิดเราให้อยากเป็นศิลปินบ้างไหม หมายถึงเป็นศิลปินเดี่ยวในอนาคต
A : อยากครับ สะกิดเราเหมือนกัน เพราะว่าก่อนที่เราจะมาทำงานเพลง เราเป็นนักแสดง แต่เราก็อยากเป็นศิลปินมาก่อน เพราะว่าเราชอบเล่นดนตรี คนเรามีความสุข เราก็ร้องเพลง มันก็มีความคิดว่าเราอยากเป็นศิลปินอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กครับ

Q : เมื่อกี้เก้าบอกว่าเป็นเด็กขี้อายและเคยมี aim ว่าอยากจะเป็นนักกีฬามากกว่า กีฬาที่ชอบคืออะไร
A : ฟุตบอล จริง ๆ ผมได้มีโอกาสเป็นนักกีฬาเกือบทุกประเภทเหมือนกัน ตั้งแต่เด็กลองมาหมดแล้วทั้งว่ายน้ำอะไรอย่างนี้ก็ตั้งแต่เด็กเลย และก็สุดท้ายมาก่อนฟุตบอลก็เป็นบาสเกตบอลประจำโรงเรียน แล้วก็มาเป็นนักฟุตบอล และสุดท้ายก็มาทำวงการ

Q : ชีวิตวัยเด็กเป็นอย่างไร เป็นคนกรุงเทพฯ หรือเปล่า
A : ไม่ใช่คนกรุงเทพฯ ครับ คนเหนือครับ คนพะเยาครับ เกิดและเติบโตที่นั่น เป็นลูกคนเดียวครับ ชีวิตวัยเด็กก็ไม่มีอะไรมากครับ ส่วนใหญ่ก็อยู่กับเพื่อน เรียน กลับบ้าน เป็นคนไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก

Q : เป็นลูกคนเดียวไม่โดนสปอยล์หรือ
A : ไม่ครับ คุณพ่อนี่เข้มงวดหนักมาก ส่วนคุณแม่ก็อาจจะมีสปอยล์บ้างนิดหนึ่ง แต่ว่าไม่หนักมากครับ ตอนเรียนมัธยม ติดเพื่อนจริงจังมากครับ ตอนนี้ เรื่องเที่ยวเรื่องอะไรพวกนี้ทิ้งหมดทุกอย่าง ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเดียว


Q : เป็นคนดูแลตัวเองอย่างไร
A : เมื่อก่อนก็ใส่เสื้อยืด กางเกงสีดำ ไม่ดำก็ขาว วนเวียนอยู่อย่างนั้น แค่นี้แหละครับ แต่ปัจจุบันก็มีโอกาสให้เราได้แต่งตัวมากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น เป็นเรื่องที่สนุกเหมือนกัน เหมือนได้เปิดประสบการณ์ใหม่ เริ่มหาเสื้อสีสันมาใส่ เริ่มแต่งตัวมากขึ้นครับ

Q : เรื่องออกกำลังกาย รักษาหุ่นล่ะ
A : ส่วนใหญ่คุมอาหารดีกว่าครับ ผมไม่ได้ค่อยเข้าฟิตเนสมานานแล้ว แต่เมื่อก่อนบ้าฟิตเนสมาก ตอนเริ่มเล่นแรก ๆ ถึงกับว่าเคยมีกล้ามสวยมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเวลาจริง ๆ ครับ

Q : ความสนุกในกองถ่ายมีอะไรบ้างไหม ระหว่าง นับสิบกับด้ายแดง เล่าให้ฟังหน่อย
A : ด้ายแดงก็สนุกกับเพื่อน ๆ มาก น้อง ๆ ด้ายแดงนี่เราเป็นคนที่แก่ที่สุดในกองเลยนะครับ น้องโอห์ม น้องแซมมี่ น้องเอิร์ธ น้องเปรม น้องบุ๋น ทุกคนอายุน้อยมาก 20 นิด ๆ ไม่มีใครเกิน 22 อะไรอย่างนี้ แล้วผมกกระโดดไปถึง 25-26 ครับ พวกเขาเรียกผมว่าลุง แต่เรามีนิสัยเด็กๆ อยู่แล้วเราก็เข้ากับน้อง ๆ ได้ง่าย ส่วนกองนับสิบนี่ก็อายุไล่เลี่ยกันหน่อย ก็สนิทกันเป็นเพื่อนกัน สนุกกันคนละแบบครับ


Q : ตัวตนของเก้าจริง ๆ เป็นอย่างไร
A : ผมหรือครับ ตัวตนของผมจริง ๆ ถ้าผมอยู่กับเพื่อนผมก็จะเป็นคนค่อนข้างช่างพูดเหมือนกัน เพราะว่าเราอยู่กับเพื่อนสนิทเรา เราก็มีอะไรให้พูดกับเพื่อนสนุกสนาน พูดได้ไปเรื่อยเหมือนกันถ้าอยู่กับ ส่วนใหญ่จะมีเพื่อนเป็นรุ่นพี่มากกว่า เพราะว่าบางทีผมก็เป็นคนที่พูดน้อย แล้วเราคบคนที่อายุเยอะกว่า เขาก็จะเป็นคนชอบพูดให้เราฟัง แล้วเขาเห็นเราเป็นคนฟังที่ดี เขาก็แบบว่าทำให้ผมมีเพื่อนสนิทหรืออะไรเป็นรุ่นพี่เยอะ

Q : กับอัพนี่ตอนที่รู้ว่าต้องมาแสดงด้วยกันนี่ จูนกันนานไหมกว่าเคมีจะคลิกกัน
A : กับอัพนี่เป็นเรื่องที่จูนกันง่ายมากนะครับ เพราะว่าอัพก็เป็นคนคุยสนุกสนานมาก ตอนเจอกันครั้งแรกผมเกร็ง ๆ นิดหนึ่ง แต่อัพก็ชวนผมคุย ผมก็ชวนอัพคุย เราคุยกันแบบไม่ถือตัว เหมือนคนบ้าคุยกัน เพราะเราเล่นอะไรกันคล้าย ๆ กัน มีความเป็นเด็ก คล้าย ๆ กัน

Q : แล้วพอสนิทกันมากแล้วต้องมีบทแบบเลิฟซีน ฟีลลิ่งตอนนั้นอย่างไรบ้าง เขินไหม
A : เขินไหม เขินอยู่แล้วครับ เพราะว่าอัพเป็นเพื่อนเรา และเราได้ลองจูบกับเพื่อน ถึงมันจะเป็นบท มันก็มีความรู้สึกเขินอยู่ดี ผมก็ถามอัพเหมือนกันนะว่ารู้สึกอย่างไร ครั้งแรกเหมือนกันใช่ไหมครับ อัพก็บอกเขิน ครั้งแรกผมก็เขิน ทุกวันนี้ก็ยังเขินอยู่ ใช่ และก็เอาออกไปไม่ได้อยู่ดีความเขิน


Q : เหตุผลที่แฟนคลับต้องชมนับสิบจะจูบ มันต่างจากซีรีส์วายเรื่องอื่นอย่างไร
A : คือจะบอกว่าเรื่องนับสิบนี่เป็นเรื่องที่มีหลายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นดราม่า คอมเมดี้ เลิฟซีน โรแมนติก มีครบหมดเลยครับ บางทีเราก็เล่นเป็นนิยายบ้าง สยองขวัญบ้าง มีครบมากจริง ๆ อยากให้ทุกคนได้ดูครับว่าเรื่องนี้มันเป็นอย่างไร แล้วมันเป็นเรื่องราวของเหมือนคล้าย ๆ เบื้องหลังวงการซีรีส์วาย ทั้งมุมมอง แฟนคลับ หรือมุมมองนักแสดงที่หยิบมาเล่นกันได้ ก็อยากให้ทุกคนติดตามเรื่องนี้พี่ ๆ ผู้กำกับและทีมงานทุกคนนี่เขาตั้งใจทำงานเต็มที่มากครับ

Q : ย้อนกลับไปนิดหนึ่งตอนที่เราคุยกันเรื่องด้ายแดง เก้าบอกว่ามันเริ่มทำให้เรามีฐานแฟนคลับมากขึ้น ทุกวันนี้แฟนคลับเราเป็นอย่างไรบ้างครับ
A : แฟนคลับผมหรือครับ ผมจะเรียกแฟนคลับตัวเองว่าพี่ ๆ น้อง ๆ ผมไม่ค่อยอยากเรียกว่าแฟนคลับ พี่ ๆ น้อง ๆ ผมนี่เป็นคนที่น่ารักมากครับ เท่าที่ผมรู้จักมาเกือบทุกคนนะครับ เวลาผมไปทำงานที่ไหนเขาก็จะคอยส่งกำลังใจ บางทีเขามาไม่ได้เขาก็จะมาหา

Q : ทุกวันนี้เราเล่นโซเชียลมีเดียเยอะมากน้อยแค่ไหน
A : น้อยมากครับ


Q : ทำไม ทั้ง ๆ ที่มันเป็นช่องทางที่เราจะมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนคลับเราได้ตลอดเวลา
A : มันบอกไม่ถูกเหมือนกันนะครับ บางทีเราจะเป็นคนที่ชอบส่องเหมือนกันนะ เข้าไปส่องว่ามีคนพูดถึงเราบ้างไหม บางทีเราไม่ได้เข้ามานาน ๆ เพราะว่าเวลาผมอยู่ห้อง ผมก็จะเป็นคนทำโน่นทำนี่ ถ้าทำงานผมก็จะเป็นคนตื่นเต้นกับงาน หรือเรายังใหม่อยู่ ลืมเข้าไปเล่น หรืออะไรอย่างนี้ครับ แต่หลัง ๆ นี่มีบ้าง เพราะว่าเราต้องแบบว่าแอบส่องแฟนคลับ

Q : หรือว่าจริง ๆ แล้วเก้าเป็นคนที่มี space ของตัวเองค่อนข้างสูง
A : ถามว่ามี space ของตัวเองค่อนข้างสูงไหม ไม่ค่อยนะครับ ถ้าคนที่รู้จักผมจริง ๆ อย่างเพื่อนสนิทผม เขาจะรู้ว่าผมเป็นคนอยากจะเข้าหาคนนั้นคนนี้ หรือ friendly เป็นคนค่อนข้างเปิดเผย พูดจาตรง ๆ


Q : ตอนที่เล่นด้ายแดงที่บอกว่าเป็นดราม่าหนัก ๆ เวลาผู้กำกับเขาคัทแล้วเราดึงตัวเองกลับมาอย่างไร
A : ผมหรือครับ ผมนี่จริง ๆ ผมเป็นคนค่อนข้างจะ down ยาก มันจะคัทตัวเองง่ายมากผม พอคัทปุ๊บเราก็จะนิดหนึ่ง นิ่งนิดหนึ่งแล้วสามารถกลับมาเป็นตัวเราได้ เพราะว่าเราอยู่กับปัจจุบันมากกว่า เราจะเทียบเคียงหรือใช้ความคิดหรือสถานการณ์ปัจจุบันมาเทียบเคียงมากกว่า มันก็ทำให้เราหลุดออกมาง่าย ผมไม่เคยใช้การเทียบเคียงเรื่องอดีตหรืออะไรที่มันหนัก ๆ ในชีวิต

Q : โอเค เรื่องความรักเป็นอย่างไรบ้างครับ
A : เรื่องความรักหรือครับ ยังไม่ค่อยได้สนใจเรื่องนี้ครับ เพราะว่าผมอยากโฟกัสกับงานมากกว่า ทำให้ดีก่อนครับ

Q : อยากฝากผลงานล่าสุดของเราหน่อย
A : ก็ฝากซีรีส์นับสิบจะจูบ ด้วยนะครับ อยากให้คนมาติดตามและมาดูเยอะ ๆ ครับ เพราะว่าพวกเราและทีมงานนี่ตั้งใจทำกันมากฃ จะได้ชมเร็ว ๆ นี้ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ทางช่อง WeTV นะครับ และช่อง 3 หมายเลข 33 ครับ


โดย Takeshi West

ติดตามดาวน์โหลดได้แล้วที่ :

https://www.ookbee.com/shop/magazine/MARHOMMEMAG/24031655-fd39-4e66-976f-840579f18515/mars-homme-magazine-online-kao

https://www.mebmarket.com/ebook-150114-Mars-Homme-Magazine-Online-KAO

]]>