Warning: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at /var/www/marshomme.com/wp-content/plugins/wp_mgr_id/wp_mgr_id.php:1) in /var/www/marshomme.com/wp-includes/feed-rss2.php on line 8
transgender – Marshomme https://marshomme.com Fri, 17 Jan 2020 09:28:10 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.2.20 https://marshomme.com/wp-content/uploads/2019/10/logo2_icon-90x90.png transgender – Marshomme https://marshomme.com 32 32 “บริการคืองานของเรา” ณัชชากฤฒ เดือนแจ่ม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสาวประเภทสอง https://marshomme.com/lifestyle/1065/ Fri, 02 Nov 2018 10:59:00 +0000 Text : เบญจกาย

ห่างหายไปพักใหญ่ๆ เบญจกาย ยังไม่หายไปจากโลกนี้นะคะ แค่ปลีกวิเวกไปจิกแรงงานต่างด้าวแถวสมุทรปราการมาค่ะ อุ๊บส์ ไม่ใช่เพื่อการนั้นนะคะ อย่าคิดมากแค่ออกไปทำวิจัยเรื่องความเป็นอยู่ว่าแรงงานต่างด้าวอยู่กันสบายดีมั้ย เผื่อมีอะไรที่เบญจะช่วยได้บ้าง ระหว่างที่ขับรถตระเวนเข้าตรอกซอกซอย สายตาก็ไปพบกะเทยสาวแต่งชุดข้าราชการเดินพบปะประชาชนอยู่ในย่านหมู่ 9 ตำบลบางปูใหม่ ในใจก็ อ๊ะ คสช. ให้เดินหาเสียงแล้วหรือ? แต่ไหนๆ ก็มาบุกถึงถิ่นนางแล้ว ก็ต้องคุยกับนางสักนิด ชะรอยว่ามาบุกถ้ำเสือ ถ้าไม่ซูฮกเจ้าถิ่น อาจจะโดนตบเอาง่ายๆ

สาวหน้าฉ่ำ ตัวท้วมๆ สมส่วน ท่านนี้คือ ‘เปรมม่า’ (หรือเปรม ตามชื่อที่บ้าน) ‘ณัชชากฤฒ เดือนแจ่ม’ เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ค่ะคุณขา กะเทยเมืองไทยนี่เก่งนะคะ อยู่ได้ทุกอาชีพ อย่างเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คอยดูแลชุมชนต่างๆ ก็มีจำนวนไม่น้อยทั่วประเทศไทย จะเรียกได้ว่างานขับเคลื่อนชุมชนไทยนี่กะเทยก็เป็นหัวจักรสำคัญมิใช่น้อย ดิฉันเอ่ยปากทักทายแนะนำตัวและเชื้อเชิญขอสัมภาษณ์เธออย่างเป็นทางการ ซึ่งเธอก็ยินดีที่จะแนะนำตัวให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน แถมคุยไปคุยมา เธอยังมีชีวิตหลายๆ ด้านที่น่าสนใจอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง

Q : เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมากี่ปีแล้ว ช่วยเล่าที่มาหน่อยค่ะ
A : เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมา 4 ปีแล้วค่ะ ตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นข้าราชการนะคะ มาจากการเลือกตั้ง ตอนแรกเนี่ย ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาทำงานด้านนี้ เพราะก่อนหน้านี้ เปรมทำงานบริษัทเอกชนอยู่ที่ภูเก็ต เป็นผู้จัดการภาคใต้ ดูแลภาคใต้ทั้งหมด คือบริษัทที่เคยทำเป็นธุรกิจเกี่ยวกับสนามกอล์ฟ โรงแรม รีสอร์ตทั่วภาคใต้ ก็เลยต้องดีลงานกับเขาไปทั่ว คราวนี้พอทำงานไปได้สักพักใหญ่ๆ มีความรู้สึกว่า เรากลับบ้านมาหาพ่อแม่ดีกว่า ก็เลยพักงาน ทีนี้ตอนช่วงพักงานได้ทำอาชีพส่วนตัวด้วย ค้าขายพวกน้ำหอมบนอินเทอร์เน็ต มันก็ใช่ว่าจะขายดีมาก แต่ขายได้เรื่อยๆ เลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำ หยุดการทำงานบริษัทเอกชนไปเลยค่ะจากนั้นหนึ่งปี มีผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้านมาขอให้ร่วมทีมเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และลงแข่งในการรับเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน เพราะผู้ใหญ่บ้านคนเก่าหมดวาระไป จำต้องมีการเปิดแข่งขันด้วยการเลือกตั้งใหม่ ทีมผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ เราก็ปรึกษากันนะ ว่าอยากจะมาพัฒนาสิ่งต่างๆ ในหมู่บ้านของเรา อยากทำอะไรบ้าง เลยตัดสินใจลงแข่งขัน แล้วก็ได้รับการเลือกตั้งชนะคะแนนเสียงมาค่ะ

Q : ตอนที่เราเสนอตัวลงสมัครเข้าทีมเนี่ย ทุกคน รวมทั้งลูกบ้านรู้ใช่มั้ยว่าเราเป็นกะเทย
A : รู้ค่ะ รู้ว่าเป็นกะเทยหรือว่าสาวสองมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เพราะจริงๆ ในชุมชนเราก็อยู่กันมา เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนกันเองทั้งนั้นล่ะค่ะ ในแง่การทำงานที่ผ่านมาการเป็นกะเทยหรือว่าสาวสอง ไม่มีปัญหาเลยนะ มิหนำซ้ำคนแถวนี้ชอบด้วยค่ะ ทั้งพ่อแม่พี่น้องประชาชน คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา เพราะเราเข้ากับคนอื่นได้ง่าย พูดคุยง่าย แล้วเราก็ช่วยเหลือเขาได้ทุกเรื่องในเขตพื้นที่รับผิดชอบของตัวเอง ทั้งเรื่องการสาธารณสุขต่างๆ น้ำ ไฟ ท่อตัน หรือไม่ก็เป็นในส่วน อสม. เราต้องดูด้วยนะคะ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ส่วนเรื่องความมั่นคงก็มีบ้าง จากการตรวจพื้นที่ เราก็พบว่ามีเรื่องยาเสพติดอยู่บ้าง ต้องประสานงานกับฝ่ายปกครองด้วย ตำรวจ ปลัดอำเภอ ต้องประสานสิบทิศค่ะ

Q : ที่ผ่านมา 4 ปี มีปัญหาอะไรที่หนักอกบ้างไหมคะ ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลประชาชน
A : ปัญหาหนักอกนี่ น่าจะมีแค่อย่างเดียวค่ะ แล้วก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะแก้ปัญหานี้ หรือว่าจะสู้กับปัญหานี้ให้ได้ นั่นก็คือเรื่อง ‘งานเยอะ’บางทีเนี่ยได้พักผ่อนแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง เพราะงานมันต่อเนื่องกัน บางทีลูกบ้านเสียชีวิตเราต้องไปดูแล ต่อด้วยทำโครงการอื่นๆ พอจะเสร็จปุ๊บ อ้าว! ต้องไปดูงูเข้าบ้านนั้นต่อตะกวดเข้าบ้านนี้บ้าง บางทีก็มีฟ้าผ่า งานมันติดๆๆ กัน เป็นเรื่องปัญหาของภายในชุมชนเนี่ยล่ะค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไร ถึงเราจะได้พักผ่อนน้อย เราก็แฮปปี้ เพราะเราตั้งใจมาทำในส่วนนี้ คิดอย่างเดียวว่า เรามีโอกาสได้ทำบุญได้ช่วยเหลือคนอื่นๆ

Q : การที่เขตนี้่มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ทำให้มีแรงงานต่างชาติเข้ามาอยู่มากพอสมควร เรื่องนี้เราต้องไปช่วยดูแลด้วยหรือเปล่า
A : แรงงานต่างชาติในพื้นที่ ถ้าในบางปู หมู่ 9 ที่ดูแลอยู่เนี่ยนะคะ ต้องบอกว่าเยอะมากๆ เพราะว่าเป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่หน้าที่ของเรา ไม่ต้องดูแลพวกเขาโดยตรง แต่เท่าที่ผ่านมาพวกเขาก็อยู่ร่วมกันกับคนไทยได้ดีนะคะ แต่ต้องเคารพกฎหมายไทย ห้ามยุ่งกับเรื่องยาเสพติด ห้ามมึนเมาวิวาท แล้วด้วยความทที่เราเป็นคนเอเชียเหมือนกัน เวลาถึงเทศกาลสำคัญๆ อย่างลอยกระทง เข้าพรรษา พวกเขาก็อยู่ร่วมกันด้วยดี อย่างชาวพม่านี่ต้องชมเขานะคะว่าชอบทำบุญมาก ทำบ่อยกว่าคนไทยอีกนะคะ

Q : ไลฟ์สไตล์ของคนบางปูเป็นอย่างไรบ้าง
A : ไลฟ์สไตล์ของคนบางปู ถ้าคนพื้นที่จะไม่อะไรมากนะคะ จะคล้ายๆ กับสังคมเมืองทั่วไป เพียงแต่ที่นี่จะมีธรรมชาติสไตล์บางปู เช่น ทะเลบางปู ตอนเย็นๆ จะมีคนออกมาวิ่งเพื่อสุขภาพเยอะ ส่วนในวันปกติก็จะไปทำงานกัน จะเป็นในออฟฟิศหรือว่าทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือบางส่วนก็ไปทำงานในกรุงเทพฯ นะคะ คล้ายๆ กับสังคมเมืองทั่วไปค่ะ

Q : ในชุมชนของเรามีคนที่เป็นกะเทยเยอะไหม
A : ในชุมชนมีเพศที่สามค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ส่วนมากจะทำงานโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก ประชากรในหมู่ 9 จะมีอยู่ประมาณ 3,000 คน แต่มีประชากรแฝงประมาณ 30,000-40,000 คน ซึ่งมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาทำงานที่สมุทรปราการคนเหล่านั้นก็มีทุกเพศนะคะ บางทีเนี่ยเจอหนุ่มสาวหน้าตาดี แต่เขาไม่ได้เป็นเพศชายเพศหญิง ทักผิดก็มีนะคะ

Q : การที่เราเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่เป็นเพศที่สาม เขาได้มาขอความช่วยเหลือหรือขอคำปรึกษาอะไรจากเราบ้างไหม
A : เรื่องขอความช่วยเหลือของลูกบ้านเพศที่สามตอนนี้ยังไม่เคยเจอนะคะ เพราะว่าเชื่อว่าแต่ละคนเขาก็จะมีวิธีการจัดการเรื่องส่วนตัวได้ค่ะ แล้วส่วนใหญ่จะมีไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของตัวเอง แต่ถามว่าพอเจอหน้ากันคุยไหม ก็ทักทายกันปกติ

Q : การที่เราเป็นกะเทย เวลาต้องไปติดต่องานกับหน่วยงานราชการอื่นๆ โดยเฉพาะการเข้าหาผู้ใหญ่ในตำแหน่งสูงๆ มีอุปสรรคอะไรบ้างไหม
A : ที่ผ่านมาไม่ได้พบปัญหานะคะ ตอนเข้ามาแรกๆ ก็จะมีกังวลนิดหนึ่งว่าเราจะเอาภาพลักษณ์ไหนดี แต่งหญิงมั้ย หรือแต่งแมนดี เขาจะดูถูกหรือเหยียดเพศกันไหม แต่พอมาทำไปได้สักพักต้องบอกเลยว่าผิดคาด ที่นี่มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสสูงมาก ทุกคนเลย ทุกหน่วยงานนะคะ แล้วทุกคนพูดจาดีน่ารัก ให้ความช่วยเหลือเราดี คอยชี้แนะแนะนำเราดีมาก เราต้องบอกว่าขอบคุณผู้ใหญ่ทุกภาคส่วนของบางปู แล้วก็ในอำเภอเมืองมากเลยค่ะว่า ทุกท่านนิสัยดีและน่ารัก แล้วเป็นกันเองดีมากค่ะ

Q : อยากจะถามเรื่องไลฟ์สไตล์ส่วนตัวนิดหนึ่ง นอกจากจะเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแล้วยังมีงานอดิเรกอื่นๆ ที่เราสนใจอะไรบ้าง
A : งานอดิเรกของเปรมนะคะ ถ้าว่างก็จะเล่นอินเทอร์เน็ต เข้าเว็บ เล่นทวิตเตอร์ แต่ว่าส่วนมากเป็นคนชอบดูซีรีส์วาย ก็เลยทำเพจเพื่อสาววายค่ะ ชื่อ Y Relation รวมทุกอย่างที่เกี่ยวกับซีรีส์วาย ซึ่งเป็นเรื่องความรักของผู้ชายกับผู้ชายนะคะ ตอนนี้สมาชิกในกลุ่มค่อนข้างเยอะทีเดียว

Q : การเป็นกะเทยแล้วไปดูซีรีส์ที่เป็นสาววาย เรารู้สึกอย่างไรที่แบบสาววายมาชอบซีรีส์เกย์
A : หมายถึงว่า ผู้หญิงที่มาชอบซีรีส์ที่เป็นผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันน่าจะถูกใจผู้หญิงมากกว่า เพราะว่าผู้หญิงก็ต้องชอบผู้ชายหล่ออยู่แล้ว แล้วผู้ชายหล่อสองคนนี้มาคุยกัน น่ารักใส่กัน มาจีบกัน สาววายเขาคงจะชอบนะคะ ก็เลยติดกลายเป็นภาพลักษณ์ของตัวเขาไปว่า เขาชอบผู้ชายจิ้นกัน

Q : มันเป็นเทรนด์ หรือว่าจริงๆ แล้วมันมีอะไรที่ตอบสนองความต้องการลึกๆ ของสาววายหรือเปล่า ในการที่ชอบให้ผู้ชาย 2 คนมาได้เสียกัน
A :เป็น coming out ของสาวๆ ในยุคนี้ เพราะว่าในยุคก่อนเนี่ย แม้จะมีบ้างแต่ไม่เยอะ แต่ว่าพอประเทศไทยมีซีรีส์วายเรื่องแรกและเรื่องที่สองตามมา มันตอบโจทย์สาวๆ เลยมีชอบมากขึ้น แต่จริงๆ แล้ว เปรมเชื่อว่าผู้หญิงที่ชอบซีรีส์วายเนี่ย เขาชอบกันมานานแล้ว ทีนี้ก็เลยมีการจับกลุ่มรวมตัว ถ้ามีซีรีส์เรื่องไหนที่เป็นชายชายคู่กันก็จะมีแฟนคลับเยอะแฟนคลับบ้าน นี่ล่ะค่ะเป็นสาววาย แล้วก็ติดตามซีรีส์วายในของแต่ละเรื่องค่ะ

Q : ตอนนี้คอมมิวนิตี้ของสาววายที่เราดูแลอยู่ ประมาณกี่คน
A : ชื่อกลุ่ม We love Y Thai นะคะ ในกลุ่มจะอยู่ใน Facebook นะคะ ไปหาดูได้ ก็อยู่ที่ 100,000 คนแล้วค่ะ

Q : แล้วในแพลตฟอร์มอื่นๆอย่างในทวิตเตอร์ล่ะ
A : ในทวิตเตอร์นะคะ ตอนนี้ก็มีผู้ติดตามยังไม่เยอะมากนะคะ ประมาณ 3,000 คน แล้วก็มีไลน์กลุ่มนะคะ ซึ่งเราก็กระจายกัน มีแอดมินท่านอื่นด้วย และมีไลน์กลุ่มอยู่ประมาณ 3 กลุ่มค่ะ กลุ่มละ 500 คน

Q : สัดส่วนของสมาชิกเป็นชะนีกี่คน และเป็นกะเทยจริงๆ ที่เป็นเกย์ประมาณเท่าไร
A : เคยเข้าไปดูในข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มนะคะ สมาชิกของกลุ่ม We love Y Thai ส่วนมากเป็นผู้หญิงวัยรุ่น 11-15 ปี เยอะหน่อย 15-20 ปี จะรองลงมา ส่วนผู้ชายที่เป็นผู้ชายแท้ๆ อาจจะมีแค่ไม่ถึง 10 คน หรือไม่ก็ไม่เกิน 1% เท่านั้น นอกนั้นจะเป็นผู้ชายที่เป็นเกย์หรือว่าเป็นไบอะไรต่างๆ ค่ะ

Q : ซีรีส์วายมันจะไปได้อีกไกลไหมในความคิดของเรา
A : ตอนนี้ เทรนด์ซีรีส์วายค่อนข้างออกมาเยอะ และแข่งกันเยอะมาก เพราะฉะนั้นถ้าทางต้นสังกัด หรือทางผู้กำกับทำซีรีส์วายที่มีเนื้อหาเข้มข้น ไม่ได้ออกแนวเหมือนยุคแรกคือจิ้นกัน หรือว่ามีเนื้อหาที่เป็นชายชาย แต่ตอนนี้ต้องแข่งกันด้วยเนื้อหา แล้วก็การตัดต่อลำดับภาพค่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่ายังไปได้อีกไกลนะคะ ถ้าผลงานวายออกมาแล้วมีคุณภาพ ก็จะมีคน support อยู่เรื่อยๆ

Q : มีเกย์บางคนรู้สึกอารมณ์เสียเวลาที่ดูซีรีส์วาย เพราะว่าฉากเลิฟซีนก็ไม่ถึงใจ ในฐานะที่เราดูแลเรื่องคอนเทนต์สาววายอยู่ เรามีความคิดเห็นอย่างไร
A : เกย์บางคนจะไม่ชอบซีรีส์วายค่ะ เพราะว่าบางทีจะมีฉากที่ไม่สมจริงใช่ไหมคะ จริงๆ แล้วต้องบอกก่อนว่าซีรีส์วายคือการมโนหรือว่ามโนภาพไปเองของสาววาย เพราะฉะนั้นการมโน จะมโนอะไรก็ได้ จะให้น่ารักฟรุ้งฟริ้งไปเท่าไรก็ได้ บางทีมันจะไม่เรียล หรือไม่จริงนะคะ หรือบางทีมันอาจจะเกินจริง แล้วถ้าคนเป็นเกย์ดูเนี่ย จะไม่ชอบเพราะมันไม่สมจริง ในชีวิตจริงของเกย์มันจะไม่ใช่วาย ส่วนในซีรีส์มันจะโอเวอร์เกินจริงอยู่แล้ว มันจะไม่เหมือนกับชีวิตเกย์จริงๆ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ถ้าซีรีส์เรื่องไหนมโนได้มากหรือทำได้มากก็อาจจะถูกใจ แต่ว่าถ้าซีรีส์เรื่องนั้นเนี่ยทำได้น้อยก็อาจจะไม่ถูกใจเกย์ก็ได้นะคะ

Q : ในฐานะที่เราดูแลพื้นที่ ถ้าจะให้แนะนำสถานที่เที่ยว สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักบางปูได้ไปลองสัมผัสดูบ้าง เราจะแนะนำอะไรบ้าง
A : สถานที่เที่ยวของอำเภอเมือง ตำบลบางปู หรืออำเภอบางปู หลักๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของตำบลบางปูเลยก็คือ สถานตากอากาศบางปู ซึ่งที่นั่นตอนเย็นๆ จะมีนกนางนวลจำนวนมาก แล้วก็มีสะพานที่ทอดยาวออกไปในทะเล มีร้านอาหาร ที่สามารถไปรับประทานอาหาร กินลมชมวิวค่ะ ในบรรยากาศตอนเย็นๆ นักท่องเที่ยวจะชอบมาก ต่อมาก็คือเมืองโบราณสมุทรปราการ ซึ่งค่อนข้างที่จะใหญ่โต แล้วขึ้นชื่ออยู่แล้ว มีทั้งกองถ่ายละครซีรีส์หนังของไทยและของต่างชาติมาใช้เสมอ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคนไทยด้วย อีกที่หนึ่งคือ ช้างเอราวัณ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมชื่นชอบเหมือนกัน ส่วนวัดดังๆ ได้แก่ วัดท่านพ่อลี หรือว่าวัดอโศการาม เป็นวัดที่ชาวบ้านมากราบไหว้กันเยอะมาก มากันไกลๆ ก็มีนะคะ เพราะว่าวัดนี้สงบร่มรื่น

Q : ปกติเวลาเราไปทำงานนี่เราแต่งหน้าไปทำงานทุกวันหรือมั้ย
A : แต่งหน้าทุกวันเลยค่ะ แต่ถ้าอยู่ในหมู่บ้านจะไม่ค่อยได้แต่ง เพราะถ้าสมมุติว่าไปจับงู จับตะกวด หรือไม่ก็ปีนเสาไฟ ทุบท่อ ไปเยี่ยมผู้ป่วย หรือว่าเวลาทำความสะอาด ตัดกิ่งไม้ ดูแลความเรียบร้อยของนักเรียนนักศึกษา หรือว่ามีเหตุตีกัน หรือเกิดเรื่องตายอะไรอย่างนี้ เอาง่ายๆ ว่างานในหมู่บ้านจะไม่ค่อยแต่งหน้า แต่ถ้าออกมานอกหมู่บ้านเมื่อไร ไม่ว่าจะไปอำเภอ ไปตำบล ไป สน. หรือว่าไป อบต. อบจ. ไปอนามัย เขตอะไรต่างๆ อย่างนี้ค่ะ จะแต่งหน้านะคะ ในลุคนี้ตลอด

ขอขอบคุณสำนักงานเทศบาลตำบลบางปู ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายทำ
www.bangpoocity.com


]]>
Tom Host : ดินแดนเร้นลับของหญิงรักหญิง https://marshomme.com/lifestyle/1122/ Thu, 20 Sep 2018 16:28:00 +0000
ประวัติศาสตร์ยาวนานล้วนบันทึกไว้ว่า เพศหญิงนั้นเป็นเพศที่ไร้พลังอำนาจใดๆ ในสังคม นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรื่องราวของหญิงรักหญิงถูกละเลยมาโดยตลอด

ในหลายๆ สังคม เพศหญิงมักถูกจำกัดความให้เป็นแค่เพียง ‘ช้างเท้าหลัง’ ภายใต้แนวคิดที่เพศชายเป็นผู้นำ ความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างผู้หญิงด้วยกันจึงไม่อาจสั่นคลอนอำนาจของเพศชายลงได้ และไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่สังคมซึ่งมีชายเป็นใหญ่จะไปสนใจกับเรื่องราวเหล่านี้ หญิงรักหญิงจึงถูกแปรรูปให้กลายเป็นเพียงแฟชั่นของวัยรุ่น เป็นความสนุกเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะโตเป็นสาวเต็มวัย และเข้าพิธีวิวาห์ในที่สุด ความคิดนี้เองที่ได้จำกัดพื้นที่ทางสังคมของกลุ่มหญิงรักหญิงให้หดแคบ ราวกับจะโดดเดี่ยวพวกเธอไว้เพียงลำพัง — ในสังคมที่ยังไม่เปิดกว้างเช่นนี้ โอกาสที่กลุ่มหญิงรักหญิงจะได้รับอนุญาตให้ปลดเปลื้องตัวตนออกมาได้นั้นจึงมีอย่างจำกัด นี่เองที่ทำให้พวกเธอต้องสร้างดินแดนเร้นลับขึ้นมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเอง และหนึ่งในดินแดนเร้นลับเหล่านั้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่เรียกกันว่า ‘ทอมโฮสต์’
ทอมโฮสต์ คือ บริการขาย ‘ความสุข’ ที่มีผู้ให้บริการเป็น ‘ทอม’ ซึ่งจะคอยบริการลูกค้าที่เป็น ‘ดี้’ โดยบริการนี้จะครอบคลุมตั้งแต่การเป็นเพื่อนเที่ยว เพื่อนคุย หรือเพื่อนกิน เพื่อคลายความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา

ว่ากันว่าบริการทอมโฮสต์เกิดขึ้นและแพร่หลายครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มต้นจากบริการที่มีลักษณะของผู้ชายบริการผู้หญิงเหมือนเป็นคู่เดต ก่อนจะขยับขยายสู่เพศอื่นๆ

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทอมโฮสต์ถูกเพ่งเล็งอย่างมาก นั่นก็คือคำถามที่ว่า การให้บริการเช่นนี้ นอกเหนือไปจากการคลายความเหงา เป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวแล้ว มันยังรวมไปถึงการขายบริการทางเพศด้วยหรือไม่ และจากการลงลึกไปสัมภาษณ์ผู้ให้บริการของทอมโฮสต์แห่งหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Third Sex HOST ซึ่งมีจุดศูนย์กลางของการติดต่อระหว่างผู้ให้บริการกับลูกค้าทางอินเทอร์เน็ต เขาได้เปิดเผยข้อมูลแก่เราว่า
“มันเหมือนเอาเงินมาซื้อความสุข ถามว่าเรื่องเซ็กซ์มีไหม มันก็แล้วแต่เคส แล้วแต่ความพึงพอใจของลูกค้า ถามว่าเรามีบริการส่วนนี้ไหม มันก็มี แต่มันเป็นบางเคสไง แต่ส่วนใหญ่จะไม่มี เราแค่เป็นกลุ่มคนเล็กๆ ที่มาให้ความสุขกับกลุ่มเพศที่สาม เราก็อยู่กันแค่นี้ พูดง่ายๆ เราก็อยู่แบบผู้หญิงกับผู้หญิงด้วยกัน มันเป็นการให้ความสุขมากกว่ามองถึงเรื่องนั้น เพศที่สามเขาก็เป็นคนที่มีความรู้สึก มีจิตใจ เขาอาจจะเหงาบ้างอะไรบ้าง เขาก็อยากมีที่ยึดเหนี่ยว ทำงานมาเหนื่อยๆ เขาก็อยากมีเพื่อนคุย มีเพื่อนเที่ยว แต่ถ้าไม่รู้จะหันหน้าเข้าหาใคร ก็ต้องพึ่งบริการพวกนี้ ซึ่งบางทีคนภายนอกเขาจะมองว่าเพศที่สามเป็นพวกผิดเพศ ผิดธรรมชาติ แต่เราเกิดมาเป็นคนเหมือนกัน ทำไมต้องทำให้รู้สึกว่าเราเป็นส่วนเกิน เป็นอะไรที่ประหลาด แค่รสนิยมทางเพศไม่เหมือนกันแค่นั้นเอง”

ผู้ให้บริการภายใต้สังกัด Third Sex HOST นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีงานประจำเป็นหลักแหล่งอยู่แล้ว และอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นนักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษ (เช่นเดียวกับลูกค้าที่ก็มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ) ทว่าแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขามาทำอาชีพนี้ ก็ไม่ใช่เหตุผลแค่เรื่องรายได้เพียงเท่านั้น

“ส่วนใหญ่เหงา อยากมีเพื่อนคุย ออกไปข้างนอกก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่ เลยอยากหากลุ่มสักกลุ่มให้เรามีที่ยืน ให้เราพอจะแสดงออกได้บ้าง”
กับประเด็นที่คนส่วนหนึ่งมองว่า การประกอบอาชีพเช่นนี้มันก็อาจไม่ต่างอะไรกับการ ‘ขายตัว’ แต่ทอมโฮสต์จาก Third Sex HOST ก็ได้อธิบายถึงความแตกต่างให้ฟังว่า

“อันนี้เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะทำหรือไม่ทำ มันจะเป็นแต่ละเคสไป สมมุติลูกค้าเขาต้องการ เราก็เลือกได้ว่าเราจะทำไหม เราไม่ทำก็ได้ เราคุยรายละเอียดกันได้ ไม่ใช่เขาจ่ายตังค์ปุ๊บ จะมามัดมือชกว่าเราต้องมีอะไรกับเขา มันไม่ใช่เรื่องเซ็กซ์เสมอไป ทำไมต้องมองว่าเราขายตัวล่ะ ทำไมไม่มองสิ่งที่เราทำว่าเราให้ความสุขคนอื่น”

อัตราค่าบริการของ Third Sex HOST จะคิดเป็นรายชั่วโมง โดยคิดตามลักษณะการบริการคือ หากเป็นการกินเที่ยวธรรมดากลางวันจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 500 บาท กลางคืน 700 บาท แต่ถ้าหากเหมาทั้งวันจะคิดราคาวันละ 2,500 บาท และถ้าเป็นเวลากลางคืน (1 ทุ่ม – 7 โมงเช้า) จะตกที่ 3,500 บาท ส่วนถ้าลูกค้าคนไหนขอให้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่านั้น ก็จะคิดชั่วโมงละ 900 บาท โดยมีกฎข้อห้ามสำคัญก็คือ ไม่รับลูกค้าเพศชาย — อาจฟังดูดีทีเดียวสำหรับรายได้ของอาชีพทอมโฮสต์ แต่การที่จะมาทำอาชีพนี้ได้ แหล่งข้อมูลของเราก็ยังบอกว่าต้องมีความละเอียดรอบคอบในการป้องกันตัวเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อทั้งลูกค้าและผู้ให้บริการเองพอสมควร เพราะการที่คนแปลกหน้าสองคนมาเจอกัน เราย่อมไม่รู้แน่ว่าอีกคนมีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร อันจะเห็นได้จากคดีปลดทรัพย์ หรือไปไกลถึงคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งกับคนที่ประกอบอาชีพในทำนองนี้

“เราต้องป้องกันทั้งลูกค้า ทั้งตัวเรา เราจะขอบัตรประชาชนไว้ เราจะขอข้อมูลไว้ เด็กเรา เราก็จะมีรหัสมีข้อมูลทุกอย่างไว้ เวลามีอะไรเกิดขึ้น ก็จะรู้ได้ว่าเด็กเราเป็นอย่างไร ลูกค้าเป็นอย่างไร ถามว่ากลัวไหมก็กลัวนะ แต่เวลาเรารับลูกค้าเราก็จะช่วยกันสแกน คือถ้าคุยแล้วรู้สึกตงิดๆ ไม่สบายใจ ก็จะไม่รับ เราจะไม่เอาตัวเราไปเสี่ยง เอาเด็กเราไปเสี่ยง”

ทั้งนี้ทั้งนั้น Third Sex HOST ยืนยันให้สบายใจว่า ข้อมูลของลูกค้าจะถูกเก็บเป็นความลับ และไม่มีทางหลุดออกไปที่ไหนแน่นอน

ส่วนเรื่องการขายสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ‘ความสุข’ จะถูกศีลธรรมจรรยาหรือไม่ มันก็คงขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน

“แต่ขอให้เปิดใจกว้างๆ สักนิด” แหล่งข้อมูลของเราทิ้งท้าย
‘ทอมดี้’ มาจากไหน?

คำว่า ‘ทอมดี้’ เป็นคำใช้เรียกกลุ่มหญิงรักหญิงในประเทศไทยเท่านั้น แต่เดิมรู้จักกันในนาม ‘อัญจารี’ ซึ่งมาจากคำว่า ‘อัญ’ บวก ‘จารีต’ ตรงกับภาษาอังกฤษว่าเลสเบี้ยน (Lesbian) แต่คำว่าเลสเบี้ยนกลับให้ความรู้สึกเชิงลบสำหรับผู้หญิงไทย ส่งผลให้ทอมดี้ไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นเลสเบี้ยน ทั้งๆ ที่การเป็นทอมหรือดี้ ก็คือหญิงรักหญิง เหมือนเลสเบี้ยนนั่นเอง

‘ทอม’ ในภาษาไทยนั้น จะสื่อความหมายถึงหญิงรักหญิงที่ไม่ได้พึงพอใจความเป็นหญิงของตัวเอง มีลักษณะนิสัยคล้ายผู้ชาย

ส่วน ‘ดี้’ มีที่มาจากคำว่า ‘Lady’ เป็นคำที่ตั้งขึ้นเองในหมู่ทอมดี้ไทยเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ใช้สำหรับเรียกผู้หญิงที่รักชอบทอม

]]>