หากจะให้นิยามของความสุขว่าคืออะไร คงจะเป็นเรื่องยาก เพราะความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความสุขของการแต่งแดร็กก็เช่นกัน “การแต่งแดร็ก (Drag) มันให้ความสุขเรา ให้ความสุขคนอื่น มันเหมือนกับเราทำบุญอย่างหนึ่งด้วย ถ้าเกิดเขาเศร้าแล้วมาดูโชว์เราแล้วเขาได้ลืมจุดนั้นเราแฮปปี้มากที่ทำให้คนหัวเราะ” ในบทสัมภาษณ์ที่ ‘ปันปัน นาคประเสริฐ’ ได้กล่าวไว้ว่าการแต่งแดร็กคือความสุข Mars Homme ชวนคุณมาไขเรื่องราวสุด Exclusive ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังกับเจ้าของฉายา Pangina Heals แดร็กควีนเมืองไทยที่โด่งดังในระดับโลก
ก่อนเข้าสู่บทสัมภาษณ์ขนาดยาว เรามาทำความรู้จักกับคำว่า ‘แดร็ก (Drag)’ กันก่อน Drag มาจากคำว่า ‘Dressed Resembling A Girl’ หมายถึงการที่ผู้ชายสามารถแต่งตัวได้เหมือนผู้หญิง ด้วยการใส่ชุดและแต่งหน้าแบบจัดเต็ม จุดประสงค์หลักๆ ก็เพียงเพราะความบันเทิงของคนชมและความสุขของแดร็ก
“แต่งหญิงมันมันส์ แล้วมันก็รู้สึกเสียวดี เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะโดนผู้ชายตีเมื่อไร หรือผู้ชายจะชมเมื่อไร”
จุดเริ่มต้นในการแต่งแดร็กเริ่มมาตั้งแต่ตอนไหน
ปันเริ่มแต่งแดร็กตั้งแต่ปี 2010 ตอนนั้นแข่งว่าใครแต่งตัวเหมือนเลดี้กาก้ามากที่สุดจะได้ไปนิวยอร์ก แล้วก็ชนะ รู้สึกสนใจกับการแต่งหญิงมันปลดปล่อยดี แล้วไม่ต้องคิดว่าสังคมแคร์อะไรเกี่ยวกับเรา เราได้โชว์ความเป็นผู้หญิงได้มากที่สุด แล้วมันเป็นแฟนตาซีที่เราสามารถสร้างคาแร็กเตอร์ได้ทุกๆวัน ให้มันไม่เหมือนเดิม
ถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จตั้งแต่นั้นเลยไหม
แต่งได้เหมือนแร็กคูนตัวเมียที่โดนลากบนถนน หน้าดูไม่ได้เลย แต่ว่าเริ่มแต่งมากขึ้นทุกวัน ดูโอเคมากขึ้น ได้เรียนรู้แล้วว่าอายไลเนอร์ไม่ควรมาเขียนปาก เขียนคิ้ว เขียนตา อายไลเนอร์ก็คืออายไลเนอร์อย่างเดียวค่ะ (หัวเราะ) มันเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น สนุก แต่งหญิงมันมันส์ แล้วมันก็รู้สึกเสียวดี เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะโดนผู้ชายตีเมื่อไร หรือผู้ชายจะชมเมื่อไร
ตอนแต่งแดร็กเคยมีผู้ชายมาจีบบ้างไหม
นับไม่หมดเลยค่ะ รู้สึกว่าผู้ชายมาจีบตอนแต่งแดร็กเยอะมาก บ้าเหรอ ไม่มีค่ะ คือลบหน้าก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าถ้ายังไม่ลบหน้า ปันว่าน้อย อย่างอเมริกาอย่างนี้ เขาจะชอบแดร็กควีนกัน เพราะว่าแดร็กควีนเหมือนเป็นควีนดัง ดูแบบน่าสนใจอะไรอย่างนี้ แต่เมืองไทยเรากะเทยมีงูจะฮิตมากกว่า อินเทรนด์มากกว่าเซนซิทีฟมากกว่า ถ้าตอนแต่งแดร็กนี่ปันไม่ชอบ มันร้อน ถุงน่องต้องกี่ชั้น ผม ขนตาเป็นกันสาดชะขนาดนั้น ฉันไม่มีอารมณ์ร่วมหรือความรู้สึกเอนจอยทางเพศในตอนนั้นเลย เพราะมันเป็นการแสดงค่ะ
แปลว่าจะมีผู้ชายเข้ามาจีบตอนที่คุณเป็นแบบนี้มากกว่า
จะมีคนมาจีบเวลาเราเป็นแบบนี้มากกว่า หรือเวลาเขาเมาสุดๆแล้วเลือกใครไม่ได้แล้ว เขาจะมาหาเราค่ะ
ผู้ชายในฝันของคุณเป็นแบบไหน
ชอบดีเจพุฒมาก ชอบผู้ชายที่ทำจมูกมา เพราะเราเคยไปทำจมูกมาเหมือนกัน เรารู้สึกว่าผู้ชายที่ดีควรมีซิลิโคน ผู้ชายในฝันอีกคนคือ Hugh Jackman ร้องเพลงได้ เป็นผู้ชายรักครอบครัว รักเมียมาก แล้วก็ใจสู้มาก คือช่วงหนึ่งเขาเป็นมะเร็งผิวหนังแล้วต้องร้องเพลง ร้องไปเลือดไหลไปแล้วร้องต่อ รู้สึกว่าเขามี passion กับการแสดง กับการร้องเพลง คือปลุกไฟข้างในตัวเองมากขนาดฝ่าความเจ็บไปได้
แล้วผู้หญิงที่คุณชื่นชอบในวงการบันเทิงมีใครบ้าง
เลดี้กาก้าค่ะ ถ้าเมืองไทย คนนี้ค่ะ (ชี้ที่หมวก #TEAM LUKKADE) บอกได้เลยมีคนเดียว เพราะว่านางมีจิตวิญญาณของกะเทยค่ะ นางคือคุณแม่กะเทยดีๆคนหนึ่งนั่นเองค่ะ เขามีครบทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่าง เก่งทุกอย่าง แล้วคือเราชอบคนพูดภาษาไทยคำอังกฤษคำ คนด่าเราว่าดัดจริตมาเยอะ แล้วเราเจอคนแบบนี้ Oh My God! เราเข้าใจกัน แล้วเขารักคนที่เขาอยู่ด้วย เขาแคร์ลูกทีมเขามากเลยใน The Face แล้วปันชอบเวลาเขาเดินแบบ คือสะกดคนดู พี่เกดคือไอดอลคนหนึ่งเลยจริงๆ
“การแต่งแดร็กมันให้ความสุขเรา ให้ความสุขคนอื่น มันเหมือนกับเราทำบุญอย่างหนึ่งด้วย ถ้าเกิดเขาเศร้าแล้วมาดูโชว์เราแล้วเขาได้ลืมจุดนั้นเราแฮปปี้มากที่ทำให้คนหัวเราะการหัวเราะมันทำให้ชีวิตยาวด้วยเหมือนกัน”
ใครบ้างที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณในการแต่งแดร็ก
แรงบันดาลใจของปันคือผู้หญิงแข็งแรงๆ Mariekristin, Lady Gaga, Beyoncé และก็คอมเมอเดียนผู้หญิงตลกนอกจากคอมเมอเดียนแล้วอินสไปร์บางคนที่เขามองโลกแบบอยู่ในกำมือของตัวเอง สร้างโลกของตัวเองค่ะ แล้วหัวเราะได้กับทุกอย่างค่ะ
คุณคิดว่าการแต่งแดร็กให้อะไรกับคุณมากกว่าการโชว์
ปันคิดว่าการแต่งแดร็กมันให้ความสุขเรา ให้ความสุขคนอื่น มันเหมือนกับเราทำบุญอย่างหนึ่งด้วย ถ้าเกิดเขาเศร้าแล้วมาดูโชว์เราแล้วเขาได้ลืมจุดนั้นเราแฮปปี้มากที่ทำให้คนหัวเราะการหัวเราะมันทำให้ชีวิตยาวด้วยเหมือนกัน มันสนุก มันเป็นสิ่งที่ดี
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการแต่งแดร็กได้สวยและเก่งขนาดนี้ของคุณคือใคร
คนที่สอนปันมีอยู่สองคนนะคะ คือพี่ต้น ดีเจสเตชั่นปันขอให้นางโชว์หลายคนมากมาช่วยสอนแต่ไม่มีใครสอนเลย จนพี่ต้นเขาสอนให้ปัน แล้วก็คนที่สำคัญกับปันมากๆก็คือ พี่ไจ๋ ซีร่า คนนี้เขาไม่เคยหวงวิชาเลย แล้วเป็นแดร็กควีนที่เก่งที่สุดในโลกเลย ปันขอบคุณจริงๆ
“เคยมีคนจ้างให้เล่นหนังโป๊ แล้วก็ไม่สนใจเราไม่ได้รู้สึกแง่ลบ เพราะว่าอาชีพแดร็กควีนต้องมาเจอกับดาราหนังโป๊อะไรอย่างนี้ค่อนข้างบ่อย เพราะว่ามันอยู่ในโลกเกย์ค่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องเพศก็คือเรื่องเพศ”
เคยพลาดเวลาขึ้นแสดงโชว์บ้างไหม
พลาดค่ะ คราวนั้นก็ไม่ถนัดกับศิลปะของกิ๊ฟดำ ซึ่งคือการติดวิกให้มันแน่นมาก สะบัดยังไงก็ไม่หลุด แล้วสร้อยข้อมือเรามันเป็นเพชร แล้วไปโดนหัววิกหลุดกลางเวทีค่ะ แล้วเราก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วอายมาก อย่างมีครั้งหนึ่งที่โรงละคร แสดงๆอยู่สงสัยนางลืมจ่ายไฟหรืออะไรไม่รู้ แล้วไฟดับค่ะ ก็อายมาก หรือที่Maggie Choo’sครั้งหนึ่งค่ะ(หัวเราะ) ไฟซ็อต ตูม! ไม่มีไฟ ไม่มีเพลง เราก็ร้องสดค่ะ อยู่ได้ประมาณครึ่งชั่วโมง เพราะแอร์ร้อนมาก แล้วก็เจอกันใหม่อาทิตย์นะคะ อันนั้นก็น่าอายมาก
แล้วเคยเจอเรื่องราวแปลกๆบ้างไหมในตอนแต่งแดร็ก
เคยมีคนจ้างให้เล่นหนังโป๊ แล้วก็ไม่สนใจเราไม่ได้รู้สึกแง่ลบ เพราะว่าอาชีพแดร็กควีนต้องมาเจอกับดาราหนังโป๊อะไรอย่างนี้ค่อนข้างบ่อย เพราะว่ามันอยู่ในโลกเกย์ค่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องเพศก็คือเรื่องเพศแหละ ปัน Open มาก ไม่ได้มีปัญหา เราไม่ได้ทำ เพราะว่าเราไม่ได้ไปสายนั้นไง
คิดว่าแดร็กควีนต่างประเทศกับเมืองไทยต่างกันมากน้อยแค่ไหน
ปันว่าความแตกต่างเป็นเรื่องการฟาดหน้าที่นิวยอร์กเขาจะดูรู้ว่าเป็นผู้ชาย แต่นั่นคือศิลปะของแดร็ก ขนตาก็จะยาวกว่า นมก็จะใหญ่กว่า หุ่นก็จะแบบปังๆ อะไรแบบนี้ คือทำให้ทุกอย่างดูใหญ่แล้วมากกว่า สำหรับ culture เรา เราจะติดเรื่องความสวยเพราะว่าเมืองไทยกะเทยสวยเยอะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี คนก็จะไม่ค่อยเข้าใจว่าแดร็กคืออะไร แต่เขาก็เริ่มรู้แล้วแหละ ด้วยรายการ Drag RaceThailand เขาจะรู้ความแตกต่างระหว่างแดร็กควีนกับนางโชว์ ไม่มีอันไหนที่ดีกว่ากัน มันไม่ได้ compare กัน มันคนละโลกกันที่อยู่ใต้ร่มเดียวกันค่ะ ก็คือความกะเทย
มาถึงตอนนี้คุณรู้สึกว่าประสบความสำเร็จหรือยัง
รู้สึกประสบความสำเร็จแฮปปี้เลยค่ะ เพราะว่าเราได้ทำในสิ่งที่เรารัก