แฟนๆ ช่อง GMMTV หลายคนอาจรู้จัก ‘เฟย-ภัทร เอกแสงกุล’ หนุ่มหล่อมาดเซอร์ อดีตจุฬาฯ คทากร และ 1 ใน 50 หนุ่มโสดคลีโอปี 2015 ผ่านบทบาทนักแสดงจากผลงานละคร ทั้ง GPA สถาบันพันธุ์แสบ และ O-negative รักออกแบบไม่ได้รวมถึงบทบาทพิธีกรมาดกวนในรายการ ‘โตแล้ว’ แต่ครั้งนี้…เราจะก้าวไปทำความรู้จักกับตัวตนของเฟยแชร์ประสบการณ์ความมันส์และแพชชั่นในกีฬาเอ็กซ์ตรีม ทั้งปีนผา ดำน้ำ และเดินเขาที่ขอบอกได้คำเดียวว่าสนุก มันส์ และต้องใช้พลังอย่างมาก!
จุดเริ่มต้นของกีฬาเอ็กซ์ตรีม
ทุกอย่างมันเริ่มจากพ่อครับ เพราะพ่อเป็นสายกิจกรรมเอาต์ดอร์เหมือนกัน ตั้งแต่เด็กๆ พ่อจะพาไปตั้งแคมป์บ่อยมาก ตั้งแต่เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เรียกว่านอนเต็นท์มาตั้งแต่เด็กๆ เลย เราก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ พอโตขึ้นมาอีกหน่อย สมัยนั้นช่วงซัมเมอร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เขาจะเปิดให้เด็กได้เข้าไปลองเล่นกีฬาหลายๆ ชนิด พ่อพาไปเล่นทุกอย่างเลย เล่นบาส เทควันโด แบตมินตัน ปิงปอง เราก็เลยได้เล่น อีกส่วนหนึ่งคือเราเป็นคนที่ไม่ค่อยอยู่สุข แอคทีฟตลอดเวลา หากิจกรรมใหม่ๆ มาทำได้เรื่อยๆ ด้วยความชอบกีฬาและเป็นคนแอคทีฟอยู่แล้ว พอโตขึ้นมาเลยลองขยับกีฬาง่ายๆ มาเป็นกีฬาที่ยากขึ้น เช่น ช่วงม.ต้น เห็นเพื่อนเล่นสเกตบอร์ดกัน เราก็เล่นบ้าง คือมันค่อยๆ ไต่ระดับไปเรื่อยๆ หากิจกรรมใหม่ๆ ลองสิ่งใหม่ๆ ให้ตัวเอง
Instagram ของเฟยเต็มไปด้วยรูปกิจกรรมปีนผาและดำน้ำ
ปีนผากับดำน้ำ มันเป็นกีฬาที่ค่อนข้างจะฉีกจากการเล่นบาสเกตบอล เตะฟุตบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กทั่วไปในโรงเรียนมัธยมชายไทยเขาทำกัน (หัวเราะ)
ตอนที่เริ่มลองปีนผาครั้งแรก ตอนนั้นเด็กมากนะ แต่มาปีนผาจริงจังน่าจะเมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน ตอนนั้นบ้าปีนอยู่สักพักใหญ่ๆ เลย ประมาณ 3-4 เดือนติดกัน เพราะว่าชอบมาก ด้วยงานหรืออะไรสักอย่างทำให้เลิกปีน จากนั้นก็หายไปเลยครับ จนเมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว มีรุ่นพี่ชวนกลับไปลองปีนดูอีกครั้ง เราคิดกับตัวเองว่า “เฮ้ย เราคิดถึงมันจัง อยากกลับไปปีนอีกครั้ง” เลยตัดสินใจกลับไปปีนอีกครั้ง จากนั้นตอนมาก็ยาวเลยครับ กลายเป็นติดปีนผาไปเลย
ส่วนดำน้ำนี่ ตอนเด็กๆ พ่อไม่ให้ดำน้ำเลยครับ เพราะมันอันตรายเกินไปสำหรับเรา พอโตขึ้น เริ่มทำงาน หาเงินเองได้ แล้วเราเองอยากลองดำสกูบาอยู่แล้วด้วย เลยตัดสินใจลองดู เพราะสกูบาใช้เงินค่อนข้างเยอะนะ ไหนจะค่าออกทริปแต่ละครั้ง ค่าเรียนดำน้ำ และค่าอุปกรณ์อีก พอหาเงินได้ด้วยตัวเองเลยลองเรียน แล้วรู้สึกชอบ ส่วนตัวชอบทะเลอยู่แล้วด้วย เลยติดใจ ตอนนี้พยายามเรียนเพื่อที่จะขึ้นไปเป็นครูให้ได้ เพราะมันสามารถสร้างอาชีพใหม่ให้กับเราได้ ตอบโจทย์ความชอบของตัวเองด้วย และหาเงินจากมันได้ด้วย
หาเวลาออกทริปไปดำน้ำ-ปีนผาบ่อยแค่ไหน
ความจริงแล้วเราอยากทำทั้งดำน้ำและปีนผาควบคู่กันไปให้ได้เยอะที่สุดนะ แต่มันทำไม่ได้ (หัวเราะ) อย่างดำน้ำ ถ้าออกทริปครั้งหนึ่งก็ใช้เงินเยอะมาก 7 วัน ประมาณ 2-3 หมื่นเลยนะ แถมเราเองไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น จะทิ้งงานแล้วหายไปเลยมันทำไม่ได้แน่ๆ แต่มีทริปดำน้ำมาเรื่อยๆ นะ อาจจะไม่บ่อยมาก 2-3 เดือนครั้ง แล้วแต่กำลังทรัพย์ของเราด้วย (หัวเราะ) แต่สำหรับปีนผา เราสามารถทำได้บ่อยๆ ครับ หลังเสร็จงาน มีเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงสามารถไปปีนได้แล้ว จากนั้นก็กลับบ้าน นอน ตื่นเช้ามาลุยงานวันต่อไปได้เลย หรือถ้าวันไหนมีเวลาว่าง จะออกไปปีนผาแบบเอาต์ดอร์ จัดทริปสั้นๆ หาสถานที่ใกล้ๆ เช้าไป-เย็นกลับก็ทำได้เลย
เสน่ห์ของมันคืออะไร
มันเท่เพราะคนปกติไม่ทำกัน (หัวเราะ) กีฬาเอ็กซ์ตรีมแต่ละอย่างมันมีเสน่ห์ต่างกันนะ อย่างปีนผา มันเหมือนเรากำลังสู้อยู่กับตัวเอง ช่วงก่อนหน้านี้ เราพักในช่วงโควิด-19 ไป ทุกอย่างมันดรอปลงมาก เราปีนรูทยากๆ ได้น้อยลง พอสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น กลับมาปีนได้สักพัก เกิดอุบัติเหตุมือหักต้องพักไปอีก ช่วงนี้เลยกลับมาฟิตมากขึ้น เพราะกำลังสู้กับตัวเองอยู่ แล้วที่เราชอบปีนผามาก เพราะมันไม่ใช่กีฬาแบบฟุตบอลที่ต้องแข่งกับคู่ต่อสู้ แต่มันคือการแข่งกับตัวเอง ว่าเราจะสามารถปีนรูทที่ยากขึ้นกว่าเดิมได้หรือเปล่า สู้กับตัวเองล้วนๆ เลย “ทำไมเราทำไม่ได้วะ เราต้องทำได้สิ ค่อยๆ ไต่ระดับมันไปเรื่อยๆ”
อีกอย่างหนึ่งคือ มัน Fullfill ตัวเราได้ มันบำบัดตัวเราเวลาที่เราสามารถปลดล็อกอีกเลเวลหนึ่งของตัวเองได้ เราเก่งขึ้นแล้วนะ รวมถึงเวลาที่ได้ไปเก็บรูทที่อยู่ใน Bucket List ของเราด้วย สิ่งพวกนี้มันช่วยเติมเต็มเราได้มากๆ เราทำงานทุกวันนี้ก็เพื่อจะได้ทำในสิ่งที่เป็นความสุขให้กับตัวเองด้วย
ถ้าอยากลองปีนผาควรจะเริ่มต้นยังไงดี
ตอบได้คำเดียวเลยว่าเราไม่สามารถบอกคุณได้ ว่าคุณจะต้องเริ่มยังไง แต่คุณต้องลองเริ่มดูก่อน แล้วคุณจะรู้ว่าคุณชอบมันไหม คุณกลัวมันหรือเปล่า คุณสามารถทำมันได้ไหม ถามว่าต้องมีร่างกายที่แข็งแรงก่อนไหม บอกเลยว่าไม่จำเป็นครับ ถ้าเราเริ่มปีนผาไปเรื่อยๆ ร่างกายจะค่อยๆแข็งแรงขึ้นมาเอง
การเตรียมตัว ต้องศึกษาวิธี, เส้นทางการปีนไหม
มันเป็นสิ่งที่นักปีนผาทุกคนต้องทำครับ ก่อนจะปีนผาเราต้องมองหน้าผา มองแล้วพิจารณาว่าตรงไหน จุดไหนที่เราเหยียบได้บ้าง จับอะไรได้บ้าง จินตนาการท่าทางของตัวเองเมื่อต้องปีนขึ้นไป ถ้าใครที่ดูคลิปแข่งปีนผาบ่อยๆ จะเห็นเลยว่าเขาจะให้เวลานักกีฬาทุกคนออกมาดูรูทก่อน เพื่อให้นักกีฬาได้จินตนาการว่าต้องปีนอย่างไร คือมันต้องอ่านรูทก่อนปีน ไม่งั้นก็ตก ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้ใช้แรงน้อยลง มันมีคำพูดที่ว่า “อ่านรูทก่อนแล้วค่อยปีน” นี่แหละคือสิ่งที่นักปีนผาต้องทำ!
แล้วดำน้ำต้องเตรียมตัวอย่างไร
ถ้าเป็นดำน้ำ ใน Protocal เขาจะมีกำหนดไว้ว่าห้ามทำอะไรบ้าง ถ้าเราทำตามกฎก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว นอกจากคนที่มีปัญหาสุขภาพ มีโรคประจำตัว เช่น ลิ้นหัวใจรั่ว หรือมีสภาวะร่างกายที่ผิดปกติ ควรให้หมอตรวจเช็กก่อนว่าเราสามารถทำได้หรือเปล่า ถ้าร่างกายไม่ไหวให้ Skip ไปก่อน มันมีคำพูดของนักดำน้ำที่พูดกันว่า “เราสามารถดำน้ำพรุ่งนี้ได้เสมอ” ไม่ต้องฝืน ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกไม่โอเค ก็อย่าเพิ่งดำน้ำ
ไปปีนผาเอาต์ดอร์ และดำน้ำที่ไหนมาบ้าง
ไปปีนผาที่น้ำผาป่าใหญ่ สระบุรี มา 2 รอบ ที่นี่มีแคมป์สำหรับนักปีนผาโดยเฉพาะเป็นจุดที่มีชาวต่างชาติไปปีนผากันเยอะมาก แถมยังเดินทางง่าย ขับรถไปจากกรุงเทพฯ แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง นอกจากนี้มีที่หาดไร่เลย์ กระบี่ อีก 2 รอบ ที่นี่เป็นอีกจุดที่ชาวต่างชาติเขาบินมาปีนผากันเยอะมาก แล้วล่าสุดไปที่ลำปางมา
ส่วนดำน้ำนี่ไปมาค่อนข้างเยอะเลย ถ้าใกล้ๆ ก็มีแสมสาร สัตหีบ ระยอง แล้วมีลงใต้ไปดำน้ำที่อันดามันเหนือ อันดามันใต้ ส่วนใหญ่จะไปทางอันดามันบ่อย เพราะเดินทางสะดวก นั่งเครื่องบินลงภูเก็ตก็ถึง แต่ถ้าเป็นต่างประเทศเคยไปมาแค่ที่เดียว ก็คือสิปาดัน เป็นอุทยานแห่งชาติของมาเลเซีย เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีผาล้อมรอบ แล้วมีแนวปะการังเยอะมาก มีโอกาสได้เจอสัตว์แปลกๆ ที่ไม่มีในไทยเยอะเลย เช่น ปลานกแก้วหัวโหนก ฉลามหัวค้อน ฉลามสีน้ำเงิน และปลากระเบนชนิดต่างๆ
ชอบที่ไหนมากที่สุด
สำหรับปีนผา ชอบที่สุดก็คือที่หาดไร่เลย์ครับ เอาจริงๆ หลายคนชอบคิดว่าไร่เลย์คือเกาะ แต่จริงๆ มันไม่ใช่ มันคือหาด อยู่บนแผ่นดินไทยนี่ล่ะ แต่มันดูเหมือนถูกตัดขาดจากตัวเมืองมาก เพราะไม่มีถนนตัดผ่านจากตัวกระบี่ ถ้าจะไปมีทางเดียวคือต้องนั่งเรืออ้อมไป ไปถึงแล้วมันเหมือนเราหลุดมาอยู่อีกที่ที่หนึ่งเลย บรรยากาศมันดีมาก แล้วเดินทางง่ายด้วย แค่นั่งเครื่องบินไปกระบี่ แล้วเดินทางต่ออีก 30-40 นาทีก็ถึงหาดไร่เลย์แล้ว ส่วนดำน้ำต้องยกให้สิปาดันเลยครับ สัตว์มันค่อนข้างเยอะกว่าที่ไทยมากเลย
มีที่ไหนที่อยากไปอีกบ้าง
เยอะมากเลยนะ (หัวเราะ) ดำน้ำนี่มีเยอะมากนะ ทั้งเม็กซิโก กาลาปากอส เคปทาวน์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย มันมีอีกมากมายมหาศาลเลยล่ะ อยากไปให้ทั่วโลกเลย ความจริงอยากลองดำน้ำแข็งดูสักครั้งในชีวิตด้วย ส่วนปีนผา ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Free Solo ซึ่งเกี่ยวกับคนที่ปีนผามือเปล่า โดยไม่มี Safety ขึ้นไป El Capitan นั่นล่ะครับ คือความฝันที่เราอยากจะไปเห็นหน้าผานั้นด้วยตาตัวเองสักครั้ง อาจจะยังไม่ต้องปีนแบบเขาก็ได้ แต่ขอไปยืนดูตรงนั้นก่อน
ถ้าต้องเลือกระหว่างทะเลกับภูเขา เฟยเลือกอะไร
มันเลือกยากมาก! เคยตั้ง Story Question ใน Instagram ให้คนมาถามคำถาม นี่เป็นหนึ่งในคำถามที่คนถามเข้ามาเยอะมาก ระหว่างปีนผากับดำน้ำเลือกอะไร ภูเขากับทะเลเลือกอะไร บอกตรงๆ ว่าเลือกไม่ได้ มันแล้วแต่โอกาสจริงๆ ว่า ณ เวลานั้นเราอยากไปที่ไหน สมมุติถ้าตอบคำถามนี้ไปแล้ว ก็จะมีคนถามต่ออีกว่าแล้วถ้าอยากมีบ้านสักหลังจะอยู่บนเขาหรือริมทะเล ก็ตอบไม่ได้อีก คืออยากมันทั้งสองที่เลย อาจจะด้านหลังเป็นภูเขา ด้านหน้าเป็นทะเล ถ้าเป็นอันนี้โอเคเลยนะ (หัวเราะ)
ถามจริงๆ สายลุยขนาดนี้ เอาพลังมาจากไหนนัก
ไม่รู้เหมือนกันนะ (หัวเราะ) มันตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่เราเป็นคนเอเนอจี้สูงมาก แอคทีฟตลอดเวลา ส่วนหนึ่งมันอาจจะมาจากเราอยากทำ ถ้าเรามีแพชชั่นกับอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็อยากไป อยากทำ มันอยู่ที่ว่าเรารักมันจริงหรือเปล่า ถ้าเราชอบและรักมันจริงๆ เราก็จะหาเวลา หาแรงมาทำจนได้ หรือไม่ได้ก็อาจจะเซฟแรงจากตรงอื่น เพื่อให้ได้ทำสิ่งนี้
ความจริงแล้วดำน้ำมันไม่เหนื่อยเลยนะ แรกๆ อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะใช้ร่างกายไม่เป็น ต้องตีขา แหวกทะเล ขึ้นมาเหนื่อย หอบ นอนหลับ แต่ถ้าเริ่มดำน้ำเป็น ดำน้ำไปสักพักแล้ว ลงไปในน้ำนี่แทบไม่ต้องทำอะไรเลย ตีขาครั้งเดียวก็ไหลไปตามกระแสน้ำแล้ว แต่ถ้าเป็นปีนผาล่ะก็ยอมรับเลยว่าเหนื่อยจริงๆ แค่เดินเข้าป่าไปก็เป็นชั่วโมงแล้ว ไหนจะต้องแบกกระเป๋าเป้อีก แล้วมีอีกอย่างหนึ่งที่ชอบคือเดินเขา อันนี้เราชอบที่ได้ใช้เวลาเดินขึ้นไปเพื่อตั้งแคมป์สักคืน ชมวิวสวยๆ แล้วก็เดินลง
เล่าถึงการเดินเขาหน่อย เป็นอย่างไรบ้าง
เราไม่ได้ไปมาเยอะขนาดนั้นนะ ถ้าไทยก็มีไปบ้างตอนไปถ่ายรายการ แต่ที่ไปเองจริงๆ เลยคือเขาช้างเผือก กาญจนบุรี ระยะทางการเดินเท้าประมาณ 8 กิโลเมตร ผ่านเขาประมาณ 3 ลูกได้กว่าจะถึงจุดตั้งแคมป์ แล้วก็ขึ้นไปพิชิตยอดเขาอีกประมาณ 600-700 เมตร ทั้งเหนื่อย ทั้งสนุก ทั้งร้อน แต่สนุกมากๆ อยู่ดี ถ้าใครอยากลองเดินเขาเราแนะนำที่นี่เลย เพราะมันไม่ยากมาก ไม่ต้องเตรียมพร้อมร่างกายมากก็สามารถขึ้นไปถึงยอดได้เหมือนกัน จริงๆ ตอนแรกตั้งใจว่าปลายปีนี้จะไป EBC หรือ Everest Base Camps ใช้เวลา 12 วัน เดินขึ้นไปยังเบสแคมป์ของคนที่เขาจะไปขึ้นเอเวอเรสต์ แต่เราไม่ขึ้นเอเวอเรสต์นะ กลัวตาย (หัวเราะ)
ลุยขนาดนี้มีโมเมนต์ท้อๆ เหนื่อยๆ บ้างไหม
มีแน่นอน อย่างปีนผามันจะมีจุดหนึ่งที่เราท้อกับตัวเองมาก เช่น เราติดอยู่ในระดับนี้ ความยากเท่านี้มา 3 เดือนแล้ว มันไม่ผ่านสักที มันทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่เก่งขึ้นเลยเหรอ ไม่แข็งแรงขึ้นเลยเหรอ แต่ความจริงแล้วเราอาจจะแข็งแรงขึ้นแล้ว แต่การที่จะสเต็ปขึ้นไปอีกระดับหนึ่งมันยากมากแค่นั้นเอง แต่ถึงแม้เราจะรู้สึกว่าทำไมไม่จบสักทีวะ ก็จะมีเพื่อนๆ และสังคมของนักปีนผาที่จะคอยให้กำลังใจกัน “เฮ้ย แกทำได้” มีเพื่อนๆ ค่อยให้กำลังใจ มันก็ช่วยเราได้เยอะ
เฟยดูเหมือนไม่กลัวอะไร พร้อมลุย พร้อมสู้ไปหมด
กลัวแมงมุมครับ นี่คือจุดอ่อนของเราเลย เพราะว่าบนหน้าผามีแมงมุม ยิ่งเป็นหน้าผาที่ไม่ค่อยมีคนไปปีน ยิ่งเจอง่ายมาก ล่าสุดที่ไปปีนผามาก็เจอตัวเบ้อเริ่ม เท่าฝ่ามือ ห้อยอยู่ตรงซอกหน้าผาที่จับดีมาก คือถ้าเราเอามือไปจับตรงนั้นได้คือสบายเลยล่ะ แต่ก็ไม่ครับ ไม่จับ (หัวเราะ) ขออ้อมดีกว่า นี่ขนาดพยายามข่มใจตัวเองมากๆ แล้วนะ แมงมุมเลยเป็นสิ่งที่เรากลัวมากๆ ถือเป็นอุปสรรคในการปีนผาของเราเลย แต่จริงๆ ตอนนี้ก็เริ่มกลัวน้อยลงมากแล้วนะ เพราะคนแกล้งเยอะ
กีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดไหนไหมที่เฟยจะไม่ทำเด็ดขาด
ลองบอร์ดเลย จริงๆ มันเป็นกีฬาที่เราเคยนั่งดูคลิป แล้วคิดว่าอยากลองเล่นเหมือนกันนะ ได้ใส่ถุงมือแล้วสไลด์ลงไป มันดูเท่นะ แต่พอมาคิดว่าแล้วถ้าเท้าเราหลุดจากบอร์ดจะทำอย่างไรล่ะ คือปีนผามันยังมีเชือกที่คอยเซฟเรา แต่ลองบอร์ดมันไม่มีใครช่วยเราได้เลย ถ้าเบรกไม่อยู่ก็คว่ำ แหกไปเลย ตอนนี้เลยพยายามเล่นอะไรที่มันเซฟกับงานเราในระดับหนึ่ง
ถ่ายละครหลายเรื่อง รายการทีวีอีก บาลานซ์ชีวิตกับกิจกรรมเหล่านี้อย่างไร
เราให้ความสำคัญกับงานเป็นหลัก โฟกัสกับงานก่อน ถ้ามีตารางงานมาต้องเช็กกับผู้จัดการว่างานนี้ใช้เวลาเท่าไหร่ เสร็จกี่โมง จากนั้นมาดูว่าเราอยู่ตรงไหน ไปปีนผาต่อได้ไหม ถ้าไปได้ก็ไป แต่ถ้าพรุ่งนี้มีงานเช้ามาก ก็ต้องมาประเมินตัวเองว่าไหวไหม ถ้าคิดว่าไม่ไหวก็เบรกไว้ก่อนเลย เช็กตารางชีวิตตัวเอง แล้วค่อยแทรกกิจกรรมของเราลงไป หรือถ้าบางครั้งตารางงานยังไม่ออก มีทริปดำน้ำเข้ามา อาจจะต้องขอล็อกไว้ก่อนเลย มันคือการจัดตารางเวลาต่างๆ ให้ลงตัว แล้วก็นอนให้เยอะขึ้น สังสรรค์ให้น้อยลง เราจะได้มีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น
แพชชั่นในกีฬาอื่นๆ ล่ะ มีอีกไหม เล่าให้ฟังหน่อย
ตอนนี้มีกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่อยากไปทำอีกหลายอย่างมาก แต่โดนเพื่อนๆ หลายคนเบรกเอาไว้ เพื่อนจะบอกให้เราโฟกัสให้มันจบๆ ไปทีละอย่าง อย่างเมื่อปีสองปีก่อนเล่นเซิร์ฟ จากนั้นหยุดแล้วมาปีนผานี่ล่ะ ตอนนี้อยากกลับไปเล่นเซิร์ฟอีกแล้ว แต่พอได้ไปคุยกับพี่เป้อารักษ์ เขาบอกว่าให้เราไปลุยปีนผาก่อน อย่าเพิ่งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แล้วใจเราตอนนี้มีความคิดอยากไปลองกระโดดร่มอีกแล้ว แต่เบรกไว้ก่อน เก็บเงินก่อน เพราะกระโดดร่มมันใช้เงินค่อนข้างเยอะมาก อยากลองกระโดดลงมาแบบตัวคนเดียว มันไม่ง่ายเลยนะกว่าจะได้ใบอนุญาตกระโดดคนเดียวได้ ต้องใช้เงิน 3-4 แสนเลย ไหนจะค่าอุปกรณ์อีก นี่ยังไม่รวมค่ากระโดดในแต่ละครั้ง ซึ่งหนึ่งครั้งก็ประมาณหนึ่งหมื่นบาทแล้ว คือมันเป็นกีฬาคนรวย เรายังไม่รวย ต้องค่อยๆ เก็บแต้มไปก่อน
ไอดอลกีฬาเอ็กซ์ตรีมของเฟย
ตอบยากมาก เพราะแต่ละวงการก็มีคนเก่งๆ เยอะมาก เราเองก็ดูทุกคนเลยด้วย ถ้าจะให้ตอบว่าเป็นใครคนใดคนหนึ่งคงยาก เพราะเราอยากทำมันทุกอย่างเลย แต่นักกีฬาเหล่านั้นส่วนใหญ่เขาจะมุ่งมั่นกับกีฬาชนิดเดียว ถ้าเป็นไอดอลตอนนี้ ขอเป็นตัวเองที่เก่งกว่าตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้าก็แล้วกัน
เป้าหมายในปีนี้ของเฟย
มีเยอะมากเลย… แต่อย่างหนึ่งที่อยากทำได้มากๆ คืออยากปีนผาให้เก่งขึ้นกว่าเดิมอีกเยอะๆ ปีนให้เก่งมากสุดๆ ไปเลย อยากบียอนด์ไปอีกขั้นหนึ่ง
เล่าถึงรายการ ‘โตแล้วเป็นคนทุกที่’
สำหรับ ‘โตแล้วเป็นคนทุกที่’รายการท่องเที่ยวที่ผมเป็นพิธีกรกับเพื่อนๆ อีก 4 คน มีทอยปฐมพงศ์, กันสมายชนกันต์, เฟิร์สคณพันธ์ แล้วก็น้องไบร์ทวชิรวิชญ์ ถือว่าโตแล้วในเวอร์ชันใหม่ ที่แตกต่างจากซีซั่นแรกมากๆ เพราะครั้งนี้เราจะเน้นการไปซึมซับวิถีชีวิตของคนในแต่ละชุมชน ไปลองใช้ชีวิตในแบบที่เขาเป็นกัน โดยที่เราจะสลับกันไปเที่ยวในที่ต่างๆ อาจจะไม่ได้พร้อมหน้าพร้อมตากันครบทั้ง 5 คน ก็อาจจะได้เห็นเราในไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ มากขึ้น แต่ถ้าถามว่าจะได้เห็นเฟยลุยกับกีฬาเอ็กซ์ตรีมในรายการนี้ไหม น่าจะยากครับ เพราะมันเป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างจะเฉพาะทางมากๆ เลยต้องอิงคนใหญ่ก่อน อย่างทอยก็ไม่ไหว เฟิร์สเองก็ดำน้ำไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมที่ทุกคนโอเค อยากลองพาทุกคนไปลองทำดูนะ
ฝากถึงคนที่อยากเป็นสายลุย แต่ยังไม่เคยลอง
ครับ… สำหรับใครที่สนใจกีฬาเอ็กซ์ตรีม ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟบอร์ด สเกตบอร์ด ลองบอร์ด ปีนผา ดำน้ำ ฟรีไดฟ์ หรือสกูบา ถ้าคุณอยากลองขอให้ลงมือทำ ไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะลองทำดีไหม จะทำอย่างไรดี อยากให้ลองลงมือทำด้วยตัวเองดูก่อน แล้วคุณจะได้รู้คำตอบของมัน ถ้ามัวแต่มานั่งคิดก็ไม่ได้ลองสักที ไม่รู้จักกับกีฬาประเภทนั้นๆ สักที ไม่รู้จักกับตัวเองสักที อยากให้ลองลงมือทำดูครับ ไม่ว่าจะกับเรื่องอะไรก็แล้วแต่
Words : ChanisaKarnsritong