ประวัติศาสตร์ยาวนานล้วนบันทึกไว้ว่า เพศหญิงนั้นเป็นเพศที่ไร้พลังอำนาจใดๆ ในสังคม นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรื่องราวของหญิงรักหญิงถูกละเลยมาโดยตลอด
ในหลายๆ สังคม เพศหญิงมักถูกจำกัดความให้เป็นแค่เพียง ‘ช้างเท้าหลัง’ ภายใต้แนวคิดที่เพศชายเป็นผู้นำ ความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างผู้หญิงด้วยกันจึงไม่อาจสั่นคลอนอำนาจของเพศชายลงได้ และไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่สังคมซึ่งมีชายเป็นใหญ่จะไปสนใจกับเรื่องราวเหล่านี้ หญิงรักหญิงจึงถูกแปรรูปให้กลายเป็นเพียงแฟชั่นของวัยรุ่น เป็นความสนุกเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะโตเป็นสาวเต็มวัย และเข้าพิธีวิวาห์ในที่สุด ความคิดนี้เองที่ได้จำกัดพื้นที่ทางสังคมของกลุ่มหญิงรักหญิงให้หดแคบ ราวกับจะโดดเดี่ยวพวกเธอไว้เพียงลำพัง — ในสังคมที่ยังไม่เปิดกว้างเช่นนี้ โอกาสที่กลุ่มหญิงรักหญิงจะได้รับอนุญาตให้ปลดเปลื้องตัวตนออกมาได้นั้นจึงมีอย่างจำกัด นี่เองที่ทำให้พวกเธอต้องสร้างดินแดนเร้นลับขึ้นมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเอง และหนึ่งในดินแดนเร้นลับเหล่านั้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่เรียกกันว่า ‘ทอมโฮสต์’
ทอมโฮสต์ คือ บริการขาย ‘ความสุข’ ที่มีผู้ให้บริการเป็น ‘ทอม’ ซึ่งจะคอยบริการลูกค้าที่เป็น ‘ดี้’ โดยบริการนี้จะครอบคลุมตั้งแต่การเป็นเพื่อนเที่ยว เพื่อนคุย หรือเพื่อนกิน เพื่อคลายความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา
ว่ากันว่าบริการทอมโฮสต์เกิดขึ้นและแพร่หลายครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มต้นจากบริการที่มีลักษณะของผู้ชายบริการผู้หญิงเหมือนเป็นคู่เดต ก่อนจะขยับขยายสู่เพศอื่นๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทอมโฮสต์ถูกเพ่งเล็งอย่างมาก นั่นก็คือคำถามที่ว่า การให้บริการเช่นนี้ นอกเหนือไปจากการคลายความเหงา เป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวแล้ว มันยังรวมไปถึงการขายบริการทางเพศด้วยหรือไม่ และจากการลงลึกไปสัมภาษณ์ผู้ให้บริการของทอมโฮสต์แห่งหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Third Sex HOST ซึ่งมีจุดศูนย์กลางของการติดต่อระหว่างผู้ให้บริการกับลูกค้าทางอินเทอร์เน็ต เขาได้เปิดเผยข้อมูลแก่เราว่า
“มันเหมือนเอาเงินมาซื้อความสุข ถามว่าเรื่องเซ็กซ์มีไหม มันก็แล้วแต่เคส แล้วแต่ความพึงพอใจของลูกค้า ถามว่าเรามีบริการส่วนนี้ไหม มันก็มี แต่มันเป็นบางเคสไง แต่ส่วนใหญ่จะไม่มี เราแค่เป็นกลุ่มคนเล็กๆ ที่มาให้ความสุขกับกลุ่มเพศที่สาม เราก็อยู่กันแค่นี้ พูดง่ายๆ เราก็อยู่แบบผู้หญิงกับผู้หญิงด้วยกัน มันเป็นการให้ความสุขมากกว่ามองถึงเรื่องนั้น เพศที่สามเขาก็เป็นคนที่มีความรู้สึก มีจิตใจ เขาอาจจะเหงาบ้างอะไรบ้าง เขาก็อยากมีที่ยึดเหนี่ยว ทำงานมาเหนื่อยๆ เขาก็อยากมีเพื่อนคุย มีเพื่อนเที่ยว แต่ถ้าไม่รู้จะหันหน้าเข้าหาใคร ก็ต้องพึ่งบริการพวกนี้ ซึ่งบางทีคนภายนอกเขาจะมองว่าเพศที่สามเป็นพวกผิดเพศ ผิดธรรมชาติ แต่เราเกิดมาเป็นคนเหมือนกัน ทำไมต้องทำให้รู้สึกว่าเราเป็นส่วนเกิน เป็นอะไรที่ประหลาด แค่รสนิยมทางเพศไม่เหมือนกันแค่นั้นเอง”
ผู้ให้บริการภายใต้สังกัด Third Sex HOST นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีงานประจำเป็นหลักแหล่งอยู่แล้ว และอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นนักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษ (เช่นเดียวกับลูกค้าที่ก็มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ) ทว่าแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขามาทำอาชีพนี้ ก็ไม่ใช่เหตุผลแค่เรื่องรายได้เพียงเท่านั้น
“ส่วนใหญ่เหงา อยากมีเพื่อนคุย ออกไปข้างนอกก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่ เลยอยากหากลุ่มสักกลุ่มให้เรามีที่ยืน ให้เราพอจะแสดงออกได้บ้าง”
กับประเด็นที่คนส่วนหนึ่งมองว่า การประกอบอาชีพเช่นนี้มันก็อาจไม่ต่างอะไรกับการ ‘ขายตัว’ แต่ทอมโฮสต์จาก Third Sex HOST ก็ได้อธิบายถึงความแตกต่างให้ฟังว่า
“อันนี้เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะทำหรือไม่ทำ มันจะเป็นแต่ละเคสไป สมมุติลูกค้าเขาต้องการ เราก็เลือกได้ว่าเราจะทำไหม เราไม่ทำก็ได้ เราคุยรายละเอียดกันได้ ไม่ใช่เขาจ่ายตังค์ปุ๊บ จะมามัดมือชกว่าเราต้องมีอะไรกับเขา มันไม่ใช่เรื่องเซ็กซ์เสมอไป ทำไมต้องมองว่าเราขายตัวล่ะ ทำไมไม่มองสิ่งที่เราทำว่าเราให้ความสุขคนอื่น”
อัตราค่าบริการของ Third Sex HOST จะคิดเป็นรายชั่วโมง โดยคิดตามลักษณะการบริการคือ หากเป็นการกินเที่ยวธรรมดากลางวันจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 500 บาท กลางคืน 700 บาท แต่ถ้าหากเหมาทั้งวันจะคิดราคาวันละ 2,500 บาท และถ้าเป็นเวลากลางคืน (1 ทุ่ม – 7 โมงเช้า) จะตกที่ 3,500 บาท ส่วนถ้าลูกค้าคนไหนขอให้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่านั้น ก็จะคิดชั่วโมงละ 900 บาท โดยมีกฎข้อห้ามสำคัญก็คือ ไม่รับลูกค้าเพศชาย — อาจฟังดูดีทีเดียวสำหรับรายได้ของอาชีพทอมโฮสต์ แต่การที่จะมาทำอาชีพนี้ได้ แหล่งข้อมูลของเราก็ยังบอกว่าต้องมีความละเอียดรอบคอบในการป้องกันตัวเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อทั้งลูกค้าและผู้ให้บริการเองพอสมควร เพราะการที่คนแปลกหน้าสองคนมาเจอกัน เราย่อมไม่รู้แน่ว่าอีกคนมีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร อันจะเห็นได้จากคดีปลดทรัพย์ หรือไปไกลถึงคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งกับคนที่ประกอบอาชีพในทำนองนี้
“เราต้องป้องกันทั้งลูกค้า ทั้งตัวเรา เราจะขอบัตรประชาชนไว้ เราจะขอข้อมูลไว้ เด็กเรา เราก็จะมีรหัสมีข้อมูลทุกอย่างไว้ เวลามีอะไรเกิดขึ้น ก็จะรู้ได้ว่าเด็กเราเป็นอย่างไร ลูกค้าเป็นอย่างไร ถามว่ากลัวไหมก็กลัวนะ แต่เวลาเรารับลูกค้าเราก็จะช่วยกันสแกน คือถ้าคุยแล้วรู้สึกตงิดๆ ไม่สบายใจ ก็จะไม่รับ เราจะไม่เอาตัวเราไปเสี่ยง เอาเด็กเราไปเสี่ยง”
ทั้งนี้ทั้งนั้น Third Sex HOST ยืนยันให้สบายใจว่า ข้อมูลของลูกค้าจะถูกเก็บเป็นความลับ และไม่มีทางหลุดออกไปที่ไหนแน่นอน
ส่วนเรื่องการขายสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ‘ความสุข’ จะถูกศีลธรรมจรรยาหรือไม่ มันก็คงขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน
“แต่ขอให้เปิดใจกว้างๆ สักนิด” แหล่งข้อมูลของเราทิ้งท้าย
‘ทอมดี้’ มาจากไหน?
คำว่า ‘ทอมดี้’ เป็นคำใช้เรียกกลุ่มหญิงรักหญิงในประเทศไทยเท่านั้น แต่เดิมรู้จักกันในนาม ‘อัญจารี’ ซึ่งมาจากคำว่า ‘อัญ’ บวก ‘จารีต’ ตรงกับภาษาอังกฤษว่าเลสเบี้ยน (Lesbian) แต่คำว่าเลสเบี้ยนกลับให้ความรู้สึกเชิงลบสำหรับผู้หญิงไทย ส่งผลให้ทอมดี้ไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นเลสเบี้ยน ทั้งๆ ที่การเป็นทอมหรือดี้ ก็คือหญิงรักหญิง เหมือนเลสเบี้ยนนั่นเอง
‘ทอม’ ในภาษาไทยนั้น จะสื่อความหมายถึงหญิงรักหญิงที่ไม่ได้พึงพอใจความเป็นหญิงของตัวเอง มีลักษณะนิสัยคล้ายผู้ชาย
ส่วน ‘ดี้’ มีที่มาจากคำว่า ‘Lady’ เป็นคำที่ตั้งขึ้นเองในหมู่ทอมดี้ไทยเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ใช้สำหรับเรียกผู้หญิงที่รักชอบทอม