ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการแทรกแซงไล่ทีมงานออกหรือขับเคี่ยวการหาเสียงประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์มักใช้ทวิตเตอร์เป็นเครื่องมือและเป็นช่องทางการสื่อสารกับโลกผิดกับนักการเมืองและประธานาธิบดีคนก่อนหน้าที่มักจะพึ่งพาทีมงานฝ่ายข่าวเพื่อชี้แจงการตัดสินใจโจมตีฝ่ายตรงข้ามหรือแถลงนโยบายต่างๆแต่ถึงกระนั้นทุกครั้งที่กดส่งทวิตเตอร์ทรัมป์ก็ไม่เคยทำต่อหน้าสายตาของใคร

เมื่อประธานาธิบดีเดินทางถึงออฟฟิศในทำเนียบขาวส่วนใหญ่หลังสิบโมงเช้าแดนสคาวิโน-อดีตแคดดี้ที่กลายมาเป็นผู้จัดการโซเชียลมีเดียของเขาจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่กับบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการแทนเจ้านายด้วยเหตุผลง่ายๆคือหากต้องอ่านข้อความบนหน้าจอสมาร์ทโฟนทรัมป์จำเป็นต้องสวมแว่นสายตาซึ่งเขาไม่ปรารถนาจะสวมมันให้ใครๆได้เห็นภาพถ่ายของเขาขณะแว่นตารวมทั้งภาพถ่ายระหว่างเขาใช้สมาร์ทโฟนจึงเป็นภาพที่หาดูได้ค่อนข้างยาก


ทรัมป์สายตายาวขนาดไหนนั้นนิวยอร์กไทม์สเคยเฉลยด้วยบทความความยาวหนึ่งหน้ากระดาษที่ตีพิมพ์ขยายเป็นหกหน้ากระดาษเพื่อให้เขาอ่านเอกสารโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดจะต้องเพิ่มพอยต์จากปกติ 12 เป็น 30 เพื่อให้เขาอ่านได้ชัดๆ

ตลอดช่วงเวลากลางวันทรัมป์จะมอบหมายให้สคาวิโนซึ่งนั่งในออฟฟิศโอ่อ่าใกล้กับโอวัลออฟฟิศเป็นคนรับหน้าที่แทนโดยใช้สมาร์ทโฟนหรือแลปท็อปของเขาโพสต์ทวิตเตอร์บัญชี @realdonaldtrump แน่นอนว่าสคาวิโนไม่ได้โพสต์อะไรเองตามอำเภอใจแต่ข้อความต่างๆนั้นทรัมป์จะเป็นคนบอกจดเอง


บ่อยครั้งประธานาธิบดีชอบเรียก ‘ทวิตเตอร์กูรู’ ของเขาเข้าพบอย่างปุบปับ “ไปตามสคาวิโนมา” เป็นประโยคที่เขามักพูดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆวันละหลายครั้งแม้กระทั่งเวลากำลังนั่งประชุมเรื่องสำคัญอยู่ก็ตามสคาวิโนคือที่ปรึกษาคนสำคัญของทรัมป์ที่จะคอยตรวจเช็คปฏิกิริยาของผู้ติดตามทวิตเตอร์ของทรัมป์รวมถึงคอยติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆจากโซเชียลมีเดียมารายงานซึ่งทรัมป์จะให้ค่ากับรายงานของสคาวิโนมากกว่าบทวิเคราะห์ของบรรดาผู้เชี่ยวชาญเสียอีก

โดนัลด์ทรัมป์จะลงมือทวีตด้วยตนเองอีกครั้งก็ต่อเมื่อพ้นเวลางานแล้ว


ความปลอดภัยสำหรับทรัมป์คือความไม่สะดวก

ปกติแล้วการคุ้มครองความปลอดภัยผู้นำของสหรัฐฯจะครอบคลุมถึงอุปกรณ์สื่อสารอย่างโทรศัพท์มือถือด้วยแม้จะเป็นเครื่องส่วนตัวก็ตามในยุคก่อนหน้าบารัก โอบามายังต้องส่งสมาร์ทโฟนของตนให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจเช็คและป้องกันแฮกเกอร์ทุกๆ 30 วันแต่โดนัลด์ทรัมป์กลับมองว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ “ไม่สะดวก” ทุกครั้งที่เขาส่งสมาร์ทโฟนของตนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คมักจะหลังจากที่เขาใช้งานแล้วนานกว่า 5 เดือน

เหตุเพราะระบบรักษาความปลอดภัยที่เคร่งครัดและเข้มงวดทำให้ประธานาธิบดีคนก่อนๆจำใจยอมตัดขาดการติดต่อกับโลกภายนอกผ่านทางโทรศัพท์มือถือบารักโอบามาเคยกล่าวบ่อยครั้งตอนเข้ารับตำแหน่งว่าเขาต้องทำใจอยู่นานกว่าจะตัดใจจาก Blackberry ที่เขารักส่วนจอร์จดับเบิลยู. บุชนั้นส่งอีเมลไปทั่ว ระบายความรู้สึกเสียใจที่อาจต้องห่างเหินทุกคนไประหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง

ตรงกันข้ามกับโดนัลด์ทรัมป์ที่ยังเก็บ Samsung Galaxy S3 เครื่องเก่าของเขาไว้และยังใช้มันระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนที่จะถูกเกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนมาใช้เครื่องใหม่ของ iPhone ที่ออกแบบฟังก์ชันเองเป็นเครื่องที่ไม่มีกล้องถ่ายภาพและติดตั้งแค่เพียงทวิตเตอร์ซึ่งล่าสุดเขาได้เปลี่ยนรุ่นแล้ว


บทบาทของโดนัลด์ทรัมป์ในโลกทวิตเตอร์

“เขาต้องทวีตเหมือนกับที่เราต้องกินอาหาร” เคลลีแอนน์คอนเวย์-ที่ปรึกษาของทรัมป์เคยบอกกับนิวยอร์กไทม์ส หนังสือพิมพ์ที่รวบรวมและวิเคราะห์กิจกรรมการใช้ทวิตเตอร์ของโดนัลด์ ทรัมป์อย่างเป็นเรื่องเป็นราว…

•ตลอดช่วง 33 เดือนที่ผ่านมาทรัมป์ใช้ทวิตเตอร์สื่อสารกับฟอลโลเวอร์จำนวน 66.5 ล้านบัญชีไปแล้วกว่า 11,000 ครั้ง

•กว่าครึ่งของข้อความจำนวนกว่า 11,000 ครั้งที่เขาทวีตเป็นการโจมตีกลุ่มหรือบุคคลเช่นสมาชิกในรัฐบาลเจ้าของกิจการอย่างเจฟฟ์เบซอสหรือนักกีฬาอย่างคอลลินแคเปอร์นิคจำนวนทั้งสิ้น 5,889 ข้อความโจมตี-ต่อต้านแรงงานข้ามชาติ 570 ครั้งและกล่าวหาสื่ออเมริกันว่าเป็น‘ภัยต่อความมั่นคงของชาติ’ 36 ครั้ง

•ทรัมป์ทวีตชื่นชมยกย่องตนเอง 2,026 ครั้งในจำนวนนั้น16 ครั้งเขาทวีตยกยอตนเองว่าเป็นประธานาธิบดีที่ประชาชนนิยมนิวยอร์กไทม์สยังสืบค้นพบอีกว่าเกือบสามในสี่ของฟอลโลเวอร์ไม่มีข้อมูลใดๆ อีกทั้งไม่มีรูปโปรไฟล์อีกด้วยและ 14 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ชื่อจริง

•ทรัมป์แสดงความคิดเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับผู้นำเผด็จการเขายกย่องคิมจองอุนประธานาธิบดีเกาหลีเหนือในทวิตเตอร์ถึง 132 ครั้ง

•ตัวทรัมป์เองฟอลโลว์ใครอื่นเพียงแค่ 47 บัญชีในจำนวนนั้นเป็นสมาชิกในครอบครัวของเขานักการเมืองสังกัดพรรครีพับริกันและคนดังอีกไม่กี่คน



เรื่อง : บุญโชคพานิชศิลป์