ใครจะคิดว่า การ์ตูนเกี่ยวกับการเรียนและสอบเข้ามหาวิทยาลัยทางด้านศิลปะ มันจะสนุกได้ขนาดนี้!!

          ท่ามกลางมังงะและอะนิเมที่มีฉากหลังเป็นโลกแฟนตาซีมากมาย ซึ่งมักจะได้รับความนิยมมากกว่าการ์ตูนที่เน้นไปที่ชีวิตจริงอันเรียบง่าย แต่ดูเหมือนว่า Blue Period กลับนำเสนอเรื่องราวอันแสนธรรมดาที่ทุกคนต้องเจออย่างการเลือกสายการเรียน และ การสอบเข้ามหาวิทยาลัย ออกมาได้อย่างเข้มข้นน่าติดตามมากที่สุด


         เรื่องราวของ Blue Period นั้นกล่าวถึงเด็กหนุ่มชั้น ม.ปลายที่ชื่อว่า ยาโทระ ยางุจิ ที่ตัวเขาเองนั้นแม้จะชอบออกไปเที่ยวเตร่กับเพื่อนๆยันเช้า แต่ผลการเรียนนั้นกลับโดดเด่น เพราะเขานั้นมีความพยายามอย่างมากในการใช้ชีวิตให้สมกับความคาดหวังของคนอื่น แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเขาได้เห็นภาพที่รุ่นพี่เขียนไว้ในห้องศิลปะของโรงเรียน ภาพนั้นมันก็ได้ส่งผลกระทบไปยังจิตใจของเขา และมันก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเลือกที่จะเดินเข้ามาในเส้นทางของเด็กศิลป์ เพียงเพราะต้องการจะวาดรูป โดยที่ไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่า เส้นทางสายนี้มันโหดหินขนาดไหน


         ความสนุกของการ์ตูนเรื่องนี้คือการให้ตัวเอก ยาโทระ ค่อยๆพาคุณเข้าไปรู้จักกับโลกแห่งศิลปะ เริ่มจากการวาดรูปในห้องเรียน ค่อยๆให้เราได้เรียนรู้พื้นฐานการวาดรูป และการใช้อุปกรณ์ไปพร้อมกับพระเอก ก่อนจะพาเราออกไปสู่โลกที่กว้างขึ้นทั้งโรงเรียนติวศิลปะ การไปดูงานตามหอศิลป์และตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งในการ์ตูนนั้นจะเล่าอย่างละเอียดว่าการเป็นเด็กศิลป์ในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นนั้นไม่ได้ง่าย เพราะใช้เงินไม่ใช่น้อย


          แถมอัตราการแข่งขันยังสูงมาก ต่อให้สอบติดได้ อนาคตก็ไม่รู้ว่าเรียนจบมาจะสามารถใช้เลี้ยงชีพได้จริงหรือไม่อีก(ปัญหานี้คงเป็นกันทั้งโลก) และยังมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำงานศิลปะว่านี่เป็นเพียงการทำตอบโจทย์เพื่อให้สอบติด หรือเป็นงานที่คนสร้างงาน ต้องการแสดงสิ่งที่ตัวเองต้องการนำเสนอออกมาจริงๆ ซึ่งหากใครเคยเรียนศิลปะ หรือเตรียมสอบเข้าคณะทางศิลปะมาล่ะก็ จะยิ่งอินกับการ์ตูนเรื่องนี้เป็นพิเศษ ประมาณว่าเฮ้ยเราก็เคยผ่านอะไรแบบนี้มานี่หว่า


          สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของเรื่องนี้ก็คือตัวละครอื่นๆที่อยู่รอบตัวพระเอก ปกติการ์ตูนสายนี้มักจะมีตัวละครที่เรียกว่าเป็นคู่แข่งของพระเอกออกมาอย่างชัดเจน แบบที่เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่เป็นเป้าหมายที่พระเอกจะต้องเอาชนะให้ได้ แต่ในเรื่องนี้ ทุกคนเป็นคนธรรมดา ที่มีข้อดี และข้อด้อยต่างๆกันไป


          ในความรู้สึกที่เป็นคู่แข่งสอบเข้ากันนั้น มันก็มีความเป็นเพื่อนที่ยอมรับในตัวซึ่งกันและกันเข้ามาด้วย และแต่ละคนก็มีปัญหาที่ต่างกันไป เช่นมีปัญหากับทางบ้านเรื่องการเลือกคณะที่เรียน มีปัญหากับการเข้าสังคม หรือบางคนก็ยังไม่แน่ใจในจุดหมายของตัวเองจริงๆ


         ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ มันเป็นเรื่องของมนุษย์ ที่เชื่อว่าคนที่อ่าน หรือดูการ์ตูนเรื่องนี้ จะพบส่วนที่เชื่อมโยงกับชีวิตของตัวเองไม่มากก็น้อย และยังมีตัวละครเพื่อนพระเอกที่เป็น LGBTQ ซึ่งน้อยครั้งนักที่จะเห็นการ์ตูนญี่ปุ่นนำมาเล่าถึงในแบบที่พาคนดูลงไปสำรวจจิตใจของตัวละคร รวมถึงมุมมองของสังคมญี่ปุ่นที่มองคนเหล่านี้ออกมาอย่างสมจริง


         Blue Periodเป็นผลงานของอาจารย์ สึบาสะ ยามากูจิ ที่เริ่มตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 2017 เป็นการ์ตูนที่มีกระแสพูดถึงมากมายในโลกโซเชี่ยลและตอนนี้ก็ได้ถูกนำมาทำเป็นอะนิเมแล้ว สามารถหาดูได้ทาง Netflix

Text : STEP HEN

ขอบคุณภาพและข้อมูล : Luckpim / Netflix

No Comments Yet

Comments are closed