ครอบครัว ‘โจลี-พิตต์’ กลายเป็นข่าวดังอีกรอบ เมื่อลูกชาย (บุญธรรม) คนโตเลือกเรียนต่อด้านชีวเคมี ที่มหาวิทยาลัยยอนเซ เกาหลีใต้ คำถามจากสื่อกอสสิปทุกค่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทั้งเรื่องการเล่าเรียน ความสัมพันธ์ในครอบครัว ไปจนถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่เคยตกเป็นข่าว

แมดด็อกซ์ ชีวัน โจลี-พิตต์ อายุครบ 18 ปีแล้ว และพร้อมเลือกเส้นทางเดินของตนเอง แม้จะยังได้รับการสนับสนุนจากแองเจลีนา โจลี-ผู้เป็นแม่อยู่ก็ตาม

จากบ้านเด็กกำพร้าสู่อ้อมอกดาราฮอลลีวูด

แมดด็อกซ์เพิ่งอายุได้เพียงขวบเดียว ตอนที่แองเจลีนา โจลี และอดีตสามี-บิลลี บ็อบ ธอร์นตัน รับตัวไว้ในความอุปถัมภ์ จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในกรุงพนมเปญ

แต่ความสุขในครอบครัวใหม่และอบอุ่นของเขาอบอวลอยู่แค่ข้ามปี ชีวิตคู่ของโจลีและธอร์นตันก็ล้มครืนลงในปี 2003 จากนั้นแบรด พิตต์เริ่มเข้ามาเป็นหัวหน้าครอบครัวคนใหม่ และรับเอาแมดด็อกซ์เป็นลูกบุญธรรมในปี 2005 ใช้ชีวิตคู่ที่น่าอิจฉาในวงการจนกระทั่งจัดพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2014

ระหว่างใช้ชีวิตคู่หอมหวาน ทั้งโจลีและพิตต์ยังอุปถัมภ์เด็กกำพร้าเพิ่มเติม คือ แพ็กซ์ (15) และซาฮารา (14) อีกทั้งยังมีลูกด้วยกัน คือ ชิโลห์ (13) และคู่แฝด-วิเวียนน์ กับน็อกซ์ (11) รวมทั้งสิ้นเป็น 6 คน

กระทั่งถึงวันที่ความรักระหว่างโจลีและพิตต์ล่ม US Weekly รายงานข่าวจากคนวงในที่ฟังแล้วน่าเศร้าว่า แมดด็อกซ์ไม่เคยรู้สึกว่าตนเป็นลูกของแบรดเลย

สาเหตุของการหย่าร้าง

ความแตกร้าวในชีวิตคู่ของโจลีและพิตต์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2016 ขณะโดยสารเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และเป็นเหตุผลให้โจลียื่นฟ้องหย่าพิตต์ในปีเดียวกัน

หลังจากมีข่าวความขัดแย้งบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ทางเอฟบีไอและหน่วยงานคุ้มครองเด็กและครอบครัวของลอส แองเจลีสได้ยื่นมือเข้ามาช่วยสืบสวนว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพิตต์และแมดด็อกซ์ ในรายงานของสื่อก่อนหน้าอ้างว่า แบรด พิตต์ลงมือทำร้ายแมดด็อกซ์ หลังจากที่เขาแสดงท่าทีปกป้องแม่ แต่สื่อบางสำนักรายงานว่าพิตต์ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย เพียงแต่อยู่ในสภาพเมามายและใช้วาจาต่อว่าทั้งแมดด็อกซ์และโจลี

ในภายหลังมีผลสรุปการสืบสวนพบว่า พิตต์ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ อีกทั้งพิตต์ยังจำได้ดีว่าเขาทำอะไรไปบ้างในวันนั้น รวมถึงเขาไม่ได้เมามายจนเสียสติระหว่างเกิดเหตุการณ์

แต่ท้ายที่สุดแล้ว พิตต์ก็ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ที่เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายทำให้โจลียื่นฟ้องหย่าหลังจากนั้น

ความพยายามของคนเป็นพ่อ (บุญธรรม)

หลังจากฟ้องหย่า โจลีอ้าแขนปกป้องลูกๆ ทั้งหกคน ทั้งจากสื่อและจากพิตต์ ที่ชัดเจนกว่านั้นคือ แมดด็อกซ์พยายามถอยห่างจากพ่อบุญธรรม แม้พิตต์จะพยายามติดต่อขอพูดคุยปรับความเข้าใจหลายต่อหลายครั้งก็ตาม

กระทั่งการตัดสินใจผละออกจากครอบครัวไปเรียนต่อที่เกาหลีใต้ แมดด็อกซ์ก็ปล่อยให้ผู้เป็นพ่อรับรู้จากสื่อ รวมทั้งในวันที่เขาเดินทางขึ้นเครื่องไปกรุงโซลพร้อมกับแม่ ก็ไร้เงาของพิตต์ตามไปส่ง

ช่วงเวลาเลวร้ายที่เกิดขึ้นในครอบครัวผ่านมาสามปี พิตต์เองก็เริ่มทำใจ และยอมรับได้แล้วว่า ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกชายคนโตกลายเป็นช่องว่างที่นับวันจะห่างมากขึ้นเรื่อยๆ


ชีวิตในอีกซีกของโลก

สื่อรายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดเล่าว่า แมดด็อกซ์เป็นเด็กขยัน เขาเตรียมตัวเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยยอนเซด้วยการลงเรียนภาษาเกาหลีก่อนสัปดาห์ละหลายชั่วโมง

และถึงแม้แมดด็อกซ์จะไปเรียนและใช้ชีวิตอยู่ในอีกซีกหนึ่งของโลกที่เคยอยู่ แต่เขาก็ยังพออุ่นใจอยู่บ้างว่า เขายังมีโอกาสได้พบเจอน้องๆ ของเขาบ่อยขึ้น เพราะโจลีมีบ้านหลังหนึ่งสำหรับครอบครัวในพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ใกล้กับสถานที่เกิดของแมดด็อกซ์ พร้อมที่ดินขนาด 375,000 ไร่ที่ส่วนหนึ่งเธอยกให้เป็นเขตป่าอนุรักษ์

นับตั้งแต่โจลีไปถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘Lara Croft: Tomb Raider’ ที่กัมพูชา และต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนพิเศษของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ที่นั่นเองที่เธอเริ่มตระหนักถึงการมีครอบครัว และได้อุปการะแมดด็อกซ์เป็นลูกบุญธรรม

วันหนึ่งข้างหน้า หนุ่มแมดด็อกซ์อาจจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่เป็นบ้านเกิดของเขาจริงๆ ก็ได้