เด็กใต้ ใบหน้าเรียวยาว ความสูงมาตรฐานชายไทย เกิดและเติบโตในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะมีวิถีชีวิตที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นและตะวันตก เขาเริ่มเล่นสเกตบอร์ดตั้งแต่ตอนเรียนชั้นประถมฯ ฝึกฝนมันจนได้ตระเวนทัวร์แข่งขัน และจากตรงนั้นเขายังสนใจในวัฒนธรรมฮิป-ฮอป ฟังจนเข้าเส้น แล้วเริ่มแร็ปเพลงตั้งแต่อายุ 13


          ‘โต้งTwopee’ เป็นชื่อที่คนในแวดวงดนตรีรู้จัก 2P นั้นมาจากชื่อ‘พิทวัส’ และนามสกุล ‘พฤกษกิจ’ ของเขา ตอนเรียนมัธยมฯ ปลาย เขาเริ่มก่อตั้งวง ‘Southside Phuket’ กับเพื่อนชื่อ ‘เฟรดดี้' ทำซีดีเพลงของตัวเองออกขายตามงานเทศกาลดนตรีต่างๆ

          “ฟังแล้วมันโดนน่ะครับ มันอิน รู้สึกได้ปลดปล่อย เหมือนเวลาดูหนังที่เราชอบ”

           โต้งบอกเหตุผลที่ชอบเพลงแร็ป “เสน่ห์ของมันอยู่ที่เนื้อหา ความหมายที่เราเล่า เพราะมันค่อนข้างส่วนตัว แร็ปจะไม่ค่อยเขียนเหมือนเพลงร็อกหรือเพลงร้องทั่วไป แต่แร็ปจะเขียนให้กับตัวเอง จากประสบการณ์ของตัวเอง เรื่องเล่าของตัวเอง ความรู้สึกของตัวเอง แล้วออกมาเป็นน้ำเสียงที่เป็นโทนของเรา เพราะเราจะเข้าใจมันได้ดีที่สุด


          “แร็ปเปอร์แต่ละคนจึงมีคาแรกเตอร์และเรื่องราวที่แตกต่างกันไป นั่นคือเสน่ห์ที่สนุกที่สุดของการทำแร็ป”

           แต่ในช่วงเริ่มต้นการทำเพลงของเขายังเป็นลักษณะทำเองขายเอง หรือที่เรียกว่าเพลงใต้ดิน “ตอนนั้นยูทูบกำลังจะมีมา คนทำเพลงอย่างผมยังต้องเอาซีดีเพลงไปฝากขายตามร้าน ซึ่งในกรุงเทพฯ ก็มีอยู่4-5ร้าน อย่างน้องท่าพระจันทร์ วีเจสยาม อะไรเหล่านี้ ก็จะมีกลุ่มอยู่ แต่ไม่เยอะเท่าไหร่

          “เราทำเองขายเอง ดีไซน์หน้าปกเอง แล้วไปฝากขาย ก็เป็นอะไรที่สนุกดีครับ ย้อนกลับไปมองตอนนี้ก็ เออ…มันเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ถามว่าคุ้มไหม ถ้าเทียบกับเรื่องเม็ดเงิน ทำในยูทูบจะคุ้มกว่า เพราะเราทำเพลงจากบ้าน คนฟังเพลงจากบ้าน ฟังกี่ครั้งก็ได้ แต่ถ้าเป็นแผ่นซีดี เราทำแค่สองร้อยแผ่น หมดแล้วก็หมดเลย แต่ถามว่าสนุกไหม มันสนุก เป็นสตรีท อันเดอร์กราวนด์จริงๆ”

         ยุคนั้นเขาต้องพยายามเยอะกว่าสมัยนี้ เขาบอก แต่พอเริ่มมียูทูบและแอพลิเคชั่นเพลงเข้ามา ซีดีเพลงก็เริ่มหายไป


Being a Rapper

          “หมวก รองเท้า ฮิป-ฮอปนี่ต้องเป็นรองเท้า Sneaker มันมีส่วนสำคัญมากๆ และแน่นอนว่าหลักๆ ต้องมี Jordan ที่เล่นกัน และที่ขาดไม่ได้คือ Yeezy อันนี้แรงมาก ทุกคนต้องมี” โต้งสาธยายถึง Accessories ที่เป็น Must-Have ของบรรดาแร็ปเปอร์

           “สำหรับผมยังต้องมีแว่นด้วยครับ ผมติดแว่นมากๆ ไม่มีไม่ได้เลย อาจเพราะเป็นเมืองร้อนมั้งครับ แดดมันจ้า” เขาว่าพลางหัวเราะ “ก็เลยติดแว่นมากๆ”


          ของประดับกายชิ้นที่แพงที่สุดของโต้งเป็นแว่นกันแดดวินเทจ จากร้านมือสอง ราคาประมาณสองหมื่นกว่าบาท

           ทุกวันนี้ โต้ง Twopee กลายมาเป็นสมาชิกของค่ายไทเทเนียม เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มีโอกาสได้ทำงานในระดับสากลด้วยการร่วมงานกับศิลปินฮิป-ฮอปชื่อดังหลายคน หนึ่งในนั้นคือเจย์ พาร์ก ดาวเด่นของเกาหลีที่เคยบินมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทย และได้ร่วมถ่ายมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่กับเขา นอกจากนั้นโต้งยังเป็นตัวแทนแร็ปเปอร์จากเมืองไทยไปปรากฏตัวใน Yo! MTV Raps รายการแร็ปในตำนานของทวีปเอเชียที่หวนกลับมาสร้างใหม่ และเขายังนั่งแท่นโค้ชในรายการ ‘The Rapper Thailand’ ทางช่อง Workpoint อีกด้วย

           “หน้าที่โค้ชในรายการก็จะเลือกลูกทีม ปั้น และคอยช่วยโปรดิวซ์โจทย์แต่ละอาทิตย์ เพื่อให้ลูกทีมได้เข้าสู่รอบชิง” เขาบอก 


Game Changer

           ‘โกงพลิกเกม’ที่จะเข้าฉาย 28 ตุลานี้ เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของโต้ง Twopee และเรื่องนี้เขารับบทเป็นพระเอกของเรื่อง

            “ผมเล่นเป็น‘ตี๋’ เด็กวัยรุ่นที่เป็นหัวโจกของกลุ่ม เขาถูกเลี้ยงมาโดยบอสตั้งแต่เด็ก ซึ่งบอสจะเป็นมาเฟียในวงการ ตี๋เป็นเด็กเลี้ยงเด็กปั้น เป็นคนที่รักเพื่อน รักครอบครัว เชื่อมั่นในความรัก เชื่อมั่นในเพื่อน ใจเด็ดเดี่ยว ขณะเดียวกันก็เป็นคนเซนสิทีฟ”


           โต้งเล่าว่าเขาเคยผ่านการแสดงมาบ้าง จากมิวสิกวิดีโอของตนเอง ที่เขามักต้องเล่นเอง คิดพล็อตเอง แต่เมื่อต้องมาเล่นหนัง “ยากกว่าแน่นอน” เขาว่า “ต้องซ้อม ต้องทำเวิร์กช็อป”

           เขายังบอกด้วยว่า ความยากของการเล่นหนังอยู่ตรงที่ว่า จะทำอย่างไรให้การแสดงมันดูเป็นธรรมชาติที่สุด ให้ดูสมูธ และน่าเชื่อถือที่สุด

           “ในชีวิตจริงผมก็คงเป็นตี๋ได้อยู่ครับ เพียงแต่ตัวจริงผมตลกโปกฮากว่าตี๋เยอะ”

            พูดถึงเรื่องโกงตามชื่อหนัง โต้งสารภาพว่าเขาเคยทำแค่ลอกข้อสอบเพื่อน และเคยโดนจับได้ “ก็รู้สึกไม่ดีครับ กับการโกง เพราะถ้าเริ่มแล้วมันอาจจะมีอีก จนติดเป็นนิสัยได้ น้องๆ ไม่ควรโกงนะครับ ถ้าเราไม่โกงเราจะมีแต่ความภาคภูมิใจ”


Definition of Love

           “ความรักคือ การดูแลซึ่งกันและกันในทุกเรื่อง ไปจนกว่าจะแก่เฒ่า”

            แร็ปเปอร์วัย30ให้คำนิยามของความรัก และผู้หญิงที่สามารถมัดใจเขาได้นั้น “น่าจะเป็นความเท่ความเป็นกันเอง และถ้าสวย เซ็กซี่ด้วยก็ดี”

            ใครที่ติดตามข่าวบันเทิงจะรู้ว่า ผู้หญิงที่โต้ง Twopee หมายถึงคือ ‘ปราง’ กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล นักแสดงสาวจากช่อง 3 ที่เคยเป็นข่าวรักแล้วเลิก และหวนกลับมาคืนรักใหม่อีกครั้งในยามนี้

           “ตอนที่เลิกกัน ตอนนั้นเราทั้งคู่เหมือนอยากจะเบรก เป็นช่วงที่มีติดเพื่อน ติดงาน ไม่ค่อยมีเวลาให้กันสักเท่าไหร่” เขาเล่า “ตอนนี้เราก็น่าจะทำงานให้เต็มที่กันทั้งคู่ งานเราก็ออกใกล้ๆ กันด้วย ของผม‘โกงพลิกเกม’ ส่วนของปรางก็มี‘เรื่อง/ผี/เล่า’ ที่กำลังฉายอยู่ ก็ช่วยให้กำลังใจกันครับ”

           ส่วนเรื่องแผนการใช้ชีวิตคู่ โต้งบอกว่ายังไม่ใช่เร็วๆ นี้ “เรายังต้องทำงาน เก็บเงิน แล้วก็เก็บตัว รอเวลาให้มัน stable กว่านี้ เราไม่รู้ไงว่าข้างหน้ามันจะเป็นอย่างไร คิดว่าทำโปรเจ็กต์หรือที่ทำอยู่ตอนนี้ให้ดีและเอ็นจอยที่สุด และพอเก็บเงินให้พออยู่ได้สบายๆ ไม่ลำบาก”

         ชอบปรางตรงไหน โต้งบอก “เขาเป็นคนมีความคิด ทัศนคติดี จริงใจ รักครอบครัว และเซ็กซี่ เท่ด้วย”


Welcome to the South

            “คนภูเก็ตจะมีวัฒนธรรมรวมกันหลากหลาย ไทย จีน มุสลิม หรือแม้กระทั่งวัฒนธรรมของตะวันตก เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว มีฝรั่งเยอะมาก สิ่งเหล่านี้น่าจะทำให้คนภูเก็ตมีความแตกต่างจากที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยตัวตน”

            ครอบครัวของโต้งมีธุรกิจร้านอาหาร ที่เขาบอกว่าเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ไปเรื่อยๆ แต่เดิมเคยเป็นร้านกินดื่ม มีดนตรีสด ยามนี้ปรับเปลี่ยนมาเป็นร้านปิ้งย่าง (คานาล่า บุฟเฟต์ปิ้งย่าง โคขุนโพนยางคำ)

           “เป็นร้านเนื้อย่างสไตล์ไทย เราใช้เนื้อจากเกษตรกรไทยทั้งหมด ผักก็จากเกษตรกรไทย ในราคาที่ย่อมเยา อร่อย และคุ้มค่า เป็นคอนเซ็ปต์ที่ในภูเก็ตยังไม่มี”

            อาหารใต้เมนูโปรดของโต้งเป็นแกงพริกกระดูกหมู และขนมจีนแกงเนื้อ แบบที่หาได้ยากในกรุงเทพฯ “ถ้าใครไปภูเก็ต ผมแนะนำให้ลองชิมขนมจีนแกงเนื้อ เนื้อติดเอ็น เผ็ดกำลังดี อร่อยมาก” พูดแล้วเขาว่านึกอยากกินขึ้นมาทันที

            แร็ปเปอร์เจ้าถิ่นแนะนำ ใครยังไม่เคยลอง… ต้องลองชิมแล

เรื่อง:บุญโชค พานิชศิลป์