ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba) เป็นผลงานการเขียนของ Koyoharu Gotōge เป็นการ์ตูนซีรี่ส์ยาวเรื่องแรกที่เขียนลงในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ โชเน็นจัมป์ ในปี 2016 โดยการ์ตูนเรื่องนี้ พัฒนามาจากการ์ตูนสั้น (One Shot) เรื่อง Kagarigari ซึ่งเขียนขึ้นเมื่อปี 2013 โดยในตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะสามารถแซงหน้าการ์ตูนอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอย่าง Onepiece ไปได้


         ดาบพิฆาตอสูร เป็นเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างนักล่าอสูร และเหล่าอสูรที่ออกทำร้ายผุ้คนในยุคไทโช โดยฝั่งอสูรนั้นนำโดย คิบุทสึจิ มุซัน ซึ่งเลือดของมุซันนั้นมีความสามารถในการเปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาให้เป็นอสูรได้ โดยหนึ่งในเหยื่อของมุซันนั้นก็คือ เนซึโกะ น้องสาวของทันจิโร่ ตัวเอกของเรื่อง ทว่าเนซึโกะนั้นแม้จะได้รับเลือดของมุซันไป แต่กลับต่อต้านไม่คุ้มคลั่งทำร้ายมนุษย์ ทันจิโร่จึงเข้ามาปกป้องเนซึโกะและเลือกที่จะก้าวเดินต่อไปในฐานะนักล่าอสูรเพื่อที่จะจัดการกับมุซันและหาหนทางที่จะทำให้เนซึโกะกลับมาเป็นมนุษย์


         ดาบพิฆาตอสูรนั้นจะเป็นการ์ตูนแนวสูตรสำเร็จของจัมป์ที่เน้นไปที่การพัฒนาของตัวเอกจากคนไร้ฝีมือไปเป็นคนที่เก่งขึ้นและปราบปีศาจที่ร้ายกาจไปเรื่อยๆ ได้พบปะกับพวกพ้องที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นมิตรภาพที่น่าจดจำ แต่ก็มีจุดที่การ์ตูนเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่น คือ การที่เราคาดเดาอะไรไม่ได้ เพราะตัวละครที่ได้รับความนิยม ตัวละครหลักที่เหมือนเป็นหนึ่งในตัวเอก มีโอกาสที่จะตายตอนไหนก็ได้ เพราะการต่อสู้ระหว่างนักล่าอสูรกับอสูรนั้น ชัยชนะขึ้นอยู่กับไหวพริบเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ทำให้นี่เป็นจุดหนึ่งที่นักอ่านหรือคนดูต้องลุ้นทุกครั้งที่เกิดการต่อสู้ขึ้น เพราะไม่ใช่ว่าฝ่ายพระเอกจะเป็นผู้ชนะเสมอไป และเมื่อถึงเวลาที่ตัวละครที่เราผูกพันต้องล้มหายตายจาก มันก็ส่งผลต่อจิตใจคนอ่านหรือคนดูอยู่พอควรเลยทีเดียว


        แม้ตัวหนังสือการ์ตูนจะถือได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่จุดที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ดังเป็นพลุแตกจริงๆ ก็มาจากอนิเมะที่เริ่มออกอากาศในปี 2019 ที่ได้สตูดิโอ Ufotable มาเป็นผู้สร้าง โดยสตูดิโอนี้มีชื่อเสียงในการทำงานที่มีคุณภาพสูง และปกติจะรับงานซีรี่ส์มากสุดปีละ1เรื่องเท่านั้น ซึ่งในตอนแรก ก็ไม่มีใครคาดไม่ถึงว่าตัวอนิเมจะดังขนาดนี้ เพราะโดยปกติ อนิเมจากจัมป์มักจะเน้นการเลือกเวลาออกอากาศทางทีวีในช่วงเวลาไพร์มไทม์ที่เข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย แต่ดาบพิฆาตอสูรแรกเริ่มนั้นออกอากาศในรอบดึก (23.30น.) ซึ่งแน่นอนว่า นั่นไม่ใช่เวลาที่เด็กละครอบครัวเขาดูกัน แต่ด้วยคุณภาพของตัวอนิเมะที่ทำออกมาได้ดีมาก กระแสจากโซเชียล รวมถึงการออกอากาศผ่านทางสตรีมมิ่งเช่นNetflixก็ทำให้อนิเมเรื่องนี้ ได้รับการพูดถึงในวงกว้างอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


        จนถึงตอนนี้ ต้องยอมรับว่า ดาบพิฆาตอสูร เป็นการ์ตูนที่ เข้าถึงคนหมู่มากและก้าวเข้าสู่ทำเนียบการ์ตูนระดับตำนานตามรุ่นพี่อย่าง ดราก้อนบอล , วันพีซ ,นารูโตะ ไปเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งตัวต้นฉบับหนังสือการ์ตูนที่ตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์นั้นได้จบสมบูรณ์ลงไปตั้งแต่กลางปี 2020 โดยที่เนื้อเรื่องของการ์ตูนได้จบลงตามความตั้งใจของอาจารย์โคโยฮารุจริงๆ ไม่ได้ลากเรื่องให้ยาวขึ้นตามเรตติ้งที่พุ่งกระฉูด ซึ่งเรื่องแบบนี้มีให้เห็นไม่บ่อยนัก เพราะโดยปกติหากการ์ตูนเรื่องไหนขายดี จัมป์จะไม่มีวันให้ยอมจบแบบง่ายๆแน่นอน จะต้องมีการขึ้นภาคใหม่ ยืดเรื่องออกไปให้ขายได้นานที่สุด กลับกันหากเรื่องไหนเรตติ้งไม่ดีก็จะถูกตัดจบโดยพลัน


        แต่สำหรับคนที่ดูอนิเมะนั้นก็ไม่ต้องห่วง เพราะเรื่องราวที่นำมาสร้างไปในซีซันแรกนั้น แทบจะเป็นแค่บทนำเรื่องเท่านั้น เนื้อเรื่องทั้งหมดจริงๆน่าจะแบ่งทำอนิเมะได้ไม่ต่ำกว่า 5 ซีซัน ไม่นับภาคแยกย่อยที่จะไปทำหนังโรงได้อีก ซึ่งในตอนนี้ อนิเมะซีซัน 2 ก็ได้ออกฉายทางสตรีมมิ่งแล้ว ในไทยเองก็หาดูได้จากหลายช่องทาง สำหรับผมสะดวกสุดก็ดูจาก Netflix นี่แหละ โดยฉายชนญี่ปุ่นสัปดาห์ต่อสัปดาห์ แต่ต้องบอกก่อนว่าเนื้อเรื่องซีซัน 2 เจ็ดตอนแรกนั้นเป็นการเอาเนื้อหาจากหนังโรงภาครถไฟนิรันดร์มาตัดต่อใหม่โดยเพิ่มรายละเอียดเข้าไปมากขึ้น ซึ่งคนที่ดูหนังมาแล้วก็อาจจะต้องอดทนรอกันอีกสักนิดเพื่อจะได้ดูเนื้อเรื่องช่วงต่อไปของดาบพิฆาตอสูรนี้


Text : STEP HEN

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก

-Netflix
-powerupmag